เคาะแล้ว! เงินดิจิทัล 20,000 ใครได้บ้าง เช็กเงื่อนไข

สารบัญ

คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งสำคัญผ่านนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นที่จับตามองอย่างกว้างขวาง ล่าสุดมีความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการในเฟสที่ 3 ที่มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเจาะจง ซึ่งนำไปสู่คำถามที่ว่า เคาะแล้ว! เงินดิจิทัล 20,000 ใครได้บ้าง เช็กเงื่อนไข โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยี และเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของระบบดิจิทัลวอลเล็ตที่พัฒนาขึ้น

สรุปประเด็นสำคัญของโครงการเงินดิจิทัล

  • กลุ่มเป้าหมายหลัก: โครงการมุ่งเน้นไปที่เยาวชนที่มีอายุระหว่าง 16-20 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่กำหนดปิดรับลงทะเบียน
  • วงเงินช่วยเหลือ: ผู้มีสิทธิ์จะได้รับเงินดิจิทัลมูลค่าสูงสุด 10,000 บาทต่อคน เพื่อใช้จ่ายตามเงื่อนไขของโครงการ
  • เงื่อนไขด้านการเงิน: ผู้เข้าร่วมโครงการต้องมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 840,000 บาท และมีเงินฝากในบัญชีรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท
  • ไทม์ไลน์การจ่ายเงิน: คาดการณ์ว่าจะเริ่มโอนเงินเข้าสู่ดิจิทัลวอลเล็ตของผู้มีสิทธิ์ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 หรือประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน
  • วัตถุประสงค์: เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือน ส่งเสริมสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ และทดสอบโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของภาครัฐ

ภาพรวมโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3

โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 เป็นการต่อยอดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ต้องการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้มีการดำเนินโครงการในลักษณะคล้ายกันกับกลุ่มเป้าหมายอื่น ๆ มาแล้วก่อนหน้านี้ การอนุมัติโครงการในครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงความพยายามในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการเลือกกลุ่มเยาวชนเป็นเป้าหมายหลัก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่จะเข้าถึงประชากรกลุ่มที่มีความสามารถในการปรับตัวและเรียนรู้การใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว

โครงการนี้มีงบประมาณรวมที่จัดสรรไว้ระหว่าง 20,000 ถึง 27,000 ล้านบาท เพื่อรองรับผู้มีสิทธิ์ที่มีจำนวนประมาณ 2 ถึง 2.7 ล้านคนทั่วประเทศ ซึ่งการดำเนินงานจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กระบวนการแจกจ่ายเงินเป็นไปอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับการพัฒนานโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคตอีกด้วย

เจาะลึกเงื่อนไข: ใครมีสิทธิ์ได้รับเงินดิจิทัล?

เพื่อให้เกิดความชัดเจนและป้องกันความสับสน รัฐบาลได้กำหนดเกณฑ์คุณสมบัติสำหรับผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ในโครงการเงินดิจิทัลเฟส 3 ไว้อย่างละเอียด ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการจำเป็นต้องตรวจสอบคุณสมบัติของตนเองให้ครบถ้วนตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้

คุณสมบัติด้านอายุและสัญชาติ

เงื่อนไขพื้นฐานที่สุดของโครงการคือเรื่องสัญชาติและอายุ ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย และมีชื่อปรากฏอยู่ในทะเบียนบ้านของประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในส่วนของเกณฑ์อายุ โครงการได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้อย่างชัดเจน คือ ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 20 ปีบริบูรณ์ โดยจะพิจารณาจากอายุ ณ วันที่ปิดรับการลงทะเบียน ซึ่งกำหนดไว้คือวันที่ 15 กันยายน 2567 ดังนั้น ผู้ที่เกิดภายในช่วงเวลาที่กำหนดและมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ดังกล่าวจึงจะมีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการนี้

เกณฑ์รายได้และสถานะทางการเงิน

นอกเหนือจากเกณฑ์อายุแล้ว สถานะทางการเงินของผู้สมัครก็เป็นปัจจัยสำคัญในการคัดกรองผู้มีสิทธิ์ เพื่อให้ความช่วยเหลือมุ่งตรงไปยังกลุ่มที่ต้องการอย่างแท้จริง โดยมีเงื่อนไข 2 ประการหลักคือ:

  1. เกณฑ์รายได้: ผู้สมัครจะต้องมีรายได้พึงประเมินต่อปีไม่เกิน 840,000 บาท โดยจะใช้ข้อมูลจากฐานภาษีปี 2566 เป็นหลักในการพิจารณา
  2. เกณฑ์เงินฝาก: ผู้สมัครต้องมีเงินฝากในบัญชีธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐรวมกันทุกบัญชี ไม่เกิน 500,000 บาท การตรวจสอบจะใช้ข้อมูลยอดเงินฝาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 เป็นเกณฑ์ตัดสิน โดยเงินฝากที่นำมาคำนวณจะครอบคลุมทั้งบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน, บัญชีออมทรัพย์, บัญชีฝากประจำ, บัตรเงินฝาก, และใบรับฝากเงิน ทั้งนี้จะนับเฉพาะบัญชีเงินฝากในสกุลเงินบาทเท่านั้น และไม่รวมการคำนวณบัญชีร่วมหรือบัญชีในนามนิติบุคคล

เงื่อนไขเพิ่มเติมที่ต้องตรวจสอบ

นอกเหนือจากคุณสมบัติหลักข้างต้น ยังมีเงื่อนไขย่อยอื่น ๆ ที่ผู้สมัครต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้เป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติตามข้อกำหนดของโครงการรัฐ ได้แก่:

  • ไม่เป็นผู้ที่เคยถูกระงับสิทธิ์หรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการอื่น ๆ ของรัฐบาลที่ผ่านมา
  • ไม่มีประวัติการฝ่าฝืนเงื่อนไขของโครงการรัฐบาลอื่น ๆ ที่อาจส่งผลให้ถูกตัดสิทธิ์
  • ต้องไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างการต้องโทษจำคุกในเรือนจำตามคำพิพากษาของศาล

วงเงินโครงการและจำนวนเงินที่ได้รับจริง

วงเงินโครงการและจำนวนเงินที่ได้รับจริง

แม้ว่าโครงการนี้จะถูกกล่าวถึงในภาพกว้างด้วยตัวเลขที่แตกต่างกันไป แต่ข้อมูลที่ได้รับการยืนยันสำหรับโครงการเฟส 3 ที่มุ่งเป้าไปยังกลุ่มเยาวชนอายุ 16-20 ปี ระบุว่าผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและผ่านการตรวจสอบสิทธิ์จะได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 10,000 บาทต่อคน ตัวเลข 20,000 ที่ปรากฏในชื่อโครงการหรือการสื่อสารนั้น อาจหมายถึงกรอบงบประมาณรวมของโครงการซึ่งอยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาท หรืออาจเป็นตัวเลขที่เคยถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาในระยะแรก

โครงการเงินดิจิทัลเฟส 3 สำหรับกลุ่มเยาวชน มีวัตถุประสงค์เพื่อกระจายเม็ดเงินกว่าสองหมื่นล้านบาทเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจฐานราก โดยผู้มีสิทธิ์แต่ละรายจะได้รับเงินจำนวน 10,000 บาท เพื่อนำไปใช้จ่าย อันเป็นการส่งเสริมสภาพคล่องและกำลังซื้อในระดับจุลภาค

ดังนั้น จึงเป็นที่ชัดเจนว่าวงเงินที่ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับเข้าสู่ดิจิทัลวอลเล็ตคือ 10,000 บาท ซึ่งรัฐบาลคาดหวังว่าเงินจำนวนนี้จะถูกนำไปใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการภายในประเทศ ก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้

ไทม์ไลน์และกระบวนการดำเนินโครงการ

เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างราบรื่น รัฐบาลได้วางกรอบเวลาและขั้นตอนการดำเนินการไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้ที่สนใจและมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ควรทำความเข้าใจไทม์ไลน์และกระบวนการต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมและไม่พลาดโอกาสในการรับสิทธิ์

กำหนดการลงทะเบียนและวันสิ้นสุด

กระบวนการลงทะเบียนเป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ โดยรัฐบาลจะเปิดให้มีการลงทะเบียนผ่านช่องทางที่กำหนด ซึ่งคาดว่าจะเป็นแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของโครงการโดยเฉพาะ กำหนดการที่สำคัญคือวันสิ้นสุดการลงทะเบียน ซึ่งถูกระบุไว้คือวันที่ 15 กันยายน 2567 ผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนจะต้องดำเนินการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนให้เสร็จสิ้นภายในวันดังกล่าว เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบสิทธิ์ในลำดับถัดไป

ช่องทางการจ่ายเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต

เมื่อผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว ผู้มีสิทธิ์จะได้รับเงินโอนเข้าสู่บัญชีดิจิทัลวอลเล็ตที่รัฐบาลได้พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งแอปพลิเคชันดังกล่าวได้ผ่านการทดสอบระบบและเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้งานจริงแล้ว คาดว่ากระบวนการจ่ายเงินจะเริ่มต้นขึ้นในช่วง ไตรมาสที่ 2 ถึงไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 หรือประมาณช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน 2568 ผู้ได้รับสิทธิ์จะสามารถนำเงินในวอลเล็ตไปใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดต่อไป

เปรียบเทียบโครงการเงินดิจิทัลในแต่ละเฟส

เพื่อให้เห็นภาพรวมของนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น การเปรียบเทียบโครงการในแต่ละเฟสจะช่วยให้เข้าใจถึงกลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป

ตารางเปรียบเทียบภาพรวมโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตในแต่ละเฟส
คุณสมบัติ โครงการเฟส 2 (กลุ่มผู้สูงอายุ) โครงการเฟส 3 (กลุ่มเยาวชน) โครงการเฟส 4
กลุ่มเป้าหมาย ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีอายุ 16-20 ปีบริบูรณ์ อยู่ระหว่างการพิจารณา
วงเงินต่อคน 10,000 บาท 10,000 บาท ยังไม่กำหนด
งบประมาณรวม ข้อมูลไม่ระบุชัดเจน ประมาณ 20,000 – 27,000 ล้านบาท ยังไม่กำหนด
สถานะโครงการ ดำเนินการแล้ว ครม. อนุมัติแล้ว รอเปิดลงทะเบียน อยู่ระหว่างการพิจารณาตามความเหมาะสม

วัตถุประสงค์และผลกระทบที่คาดหวัง

การดำเนินโครงการเงินดิจิทัลเฟส 3 มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนหลายประการ ประการแรกและสำคัญที่สุดคือการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับมหภาค โดยการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปในระบบเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายและการหมุนเวียนของเงิน ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการรายย่อยและธุรกิจต่าง ๆ ทั่วประเทศ

ประการที่สองคือการเลือกกลุ่มเป้าหมายเป็นเยาวชนอายุ 16-20 ปี ซึ่งถือเป็นกลุ่มประชากรที่มีความคุ้นเคยและเปิดรับเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นอย่างดี การดำเนินการในกลุ่มนี้จึงเปรียบเสมือนการทดสอบระบบดิจิทัลวอลเล็ตในวงกว้าง เพื่อเก็บข้อมูลและประเมินประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม ก่อนที่จะขยายผลไปยังประชากรกลุ่มอื่น ๆ ในอนาคต นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ และเรียนรู้การบริหารจัดการการเงินผ่านช่องทางดิจิทัล

ผลกระทบที่คาดหวังคือการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่โครงการดำเนินไป ซึ่งอาจช่วยพยุงอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะสั้นได้ ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างความคุ้นเคยและส่งเสริมให้เกิดสังคมไร้เงินสดในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล

สรุปและขั้นตอนที่ควรทราบ

โดยสรุป โครงการเงินดิจิทัลเฟส 3 ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือเยาวชนไทยอายุ 16-20 ปี ที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขด้านรายได้และเงินฝากที่กำหนด ผู้มีสิทธิ์จะได้รับเงินจำนวน 10,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชันดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 เพื่อใช้จ่ายและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ

สำหรับผู้ที่เข้าข่ายตามเงื่อนไขดังกล่าว ควรเตรียมความพร้อมและตรวจสอบคุณสมบัติของตนเองอีกครั้ง ทั้งเรื่องอายุ รายได้ประจำปีภาษี 2566 และยอดเงินฝาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 สิ่งสำคัญที่สุดคือการติดตามข่าวสารและประกาศอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้พลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับขั้นตอนและกำหนดการในการลงทะเบียนยืนยันสิทธิ์ ซึ่งจะมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบในลำดับต่อไป