เทรนด์แฟชั่น BKKFW 2025: 5 สไตล์มาแรงต้องมีติดตู้!

สารบัญ

เวที Bangkok International Fashion Week 2025 (BKKFW 2025) ได้ปิดฉากลงอย่างงดงาม พร้อมทิ้งภาพจำและทิศทางใหม่ๆ ให้กับวงการแฟชั่นไทย ปีนี้เหล่าดีไซเนอร์ไทยได้นำเสนอคอลเลกชันที่สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างเอกลักษณ์ความเป็นไทยเข้ากับกระแสแฟชั่นระดับโลกอย่างลงตัว บทความนี้จะเจาะลึก 5 เทรนด์หลักที่โดดเด่นที่สุดจากรันเวย์ ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการอัปเดตสไตล์ให้ทันสมัยและมีเอกลักษณ์สำหรับซีซั่นที่กำลังจะมาถึง

ประเด็นสำคัญที่น่าจับตามอง

  • การผสมผสานสไตล์: เทรนด์หลักของปี 2025 คือการนำสไตล์ที่แตกต่างกันมาผสมผสานกันอย่างสร้างสรรค์ เช่น การจับคู่เสื้อผ้าวินเทจกับไอเท็มที่ดูทันสมัย หรือการนำสปอร์ตแวร์มาสร้างลุคที่ดูเป็นทางการมากขึ้น
  • ความยั่งยืนและวัฒนธรรม: ดีไซเนอร์ไทยหันมาให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุท้องถิ่นและงานฝีมือมากขึ้น สะท้อนถึงกระแสแฟชั่นที่ยั่งยืน (Sustainable Fashion) และการเชิดชูมรดกทางวัฒนธรรม
  • โครงสร้างและรูปทรง: เสื้อผ้าทรงโอเวอร์ไซส์ยังคงได้รับความนิยม ควบคู่ไปกับเสื้อผ้าที่ตัดเย็บอย่างประณีตและมีโครงสร้างที่ชัดเจนขึ้น แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในการแสดงออกผ่านเสื้อผ้า
  • โทนสีธรรมชาติ: สีเอิร์ธโทน สีกลาง และสีพาสเทลอ่อนๆ เช่น สีชมพูแป้ง (Powder Pink) กลายเป็นโทนสีหลักบนรันเวย์ บ่งบอกถึงความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความหรูหรา
  • ความสบายที่มาพร้อมสไตล์: เทรนด์ส่วนใหญ่เน้นเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย สามารถปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน แต่ยังคงไว้ซึ่งรายละเอียดและการออกแบบที่มีสไตล์

ทิศทางแฟชั่นไทยสู่เวทีโลก

ทิศทางแฟชั่นไทยสู่เวทีโลก

ภาพรวมของ เทรนด์แฟชั่น BKKFW 2025: 5 สไตล์มาแรงต้องมีติดตู้! ชี้ให้เห็นถึงความเติบโตและศักยภาพของอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยที่ก้าวไปอีกระดับ งานแฟชั่นวีคในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่สำหรับดีไซเนอร์ในการแสดงผลงาน แต่ยังเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่าแฟชั่นไทยกำลังได้รับการยอมรับในเวทีสากลมากขึ้น ผ่านการนำเสนอคอลเลกชันที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และเรื่องราวที่น่าสนใจ

ความสำคัญของ BKKFW 2025 อยู่ที่การเป็นตัวกำหนดทิศทางสไตล์การแต่งตัวสำหรับผู้คนในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ติดตามแฟชั่นอย่างใกล้ชิด เทรนด์ที่เกิดขึ้นบนรันเวย์มักจะถูกนำไปปรับใช้และตีความใหม่ในรูปแบบของสตรีทสไตล์ สะท้อนให้เห็นถึงพลวัตของแฟชั่นที่ไม่เคยหยุดนิ่ง นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสในการผลักดันดีไซเนอร์ไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทั้งในและต่างประเทศ ผ่านการปรากฏตัวของบุคคลที่มีชื่อเสียงและสื่อแฟชั่นชั้นนำ

5 เทรนด์เด่นจากรันเวย์ Bangkok International Fashion Week 2025

จากการวิเคราะห์คอลเลกชันต่างๆ ที่จัดแสดงบนรันเวย์ สามารถสรุป 5 เทรนด์หลักที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการแฟชั่นปี 2025 ได้ดังนี้

1. การกลับมาของวินเทจสไตล์ (Vintage Style)

แฟชั่นวินเทจยังคงยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งบนรันเวย์ BKKFW 2025 แต่มาในรูปแบบที่ร่วมสมัยและเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น หัวใจหลักของเทรนด์นี้คือการนำเสื้อผ้าที่มีกลิ่นอายจากยุคก่อน โดยเฉพาะยุค 70s, 80s และ 90s กลับมาตีความใหม่ ไอเท็มชิ้นเด่นคือเสื้อยีนส์ ที่ถูกนำเสนอในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่แจ็กเก็ตยีนส์ฟอกสีซีดที่ตัดเย็บพอดีตัว ไปจนถึงกางเกงยีนส์ทรงคลาสสิกที่เน้นคัตติ้งเนี้ยบ

สิ่งที่น่าสนใจคือการจับคู่ไอเท็มวินเทจเหล่านี้กับเสื้อผ้าสมัยใหม่ เช่น การสวมเสื้อยืดวงดนตรีสไตล์เรโทรคู่กับกางเกงสแลคทรงเทเลอร์ หรือการนำเดรสวินเทจมาสวมทับเสื้อเชิ้ตสมัยใหม่เพื่อสร้างเลเยอร์ที่น่าสนใจ การผสมผสานนี้ช่วยลดทอนความเป็นทางการและสร้างลุคที่ดูผ่อนคลายแต่ยังมีสไตล์ การเกิดขึ้นของเทรนด์นี้ยังสอดคล้องกับกระแสความยั่งยืนที่ผู้คนหันมาสนใจเสื้อผ้ามือสองมากขึ้น โดยย่านเอกมัยและตลาดนัดจตุจักรยังคงเป็นแหล่งรวมไอเท็มวินเทจที่สำคัญสำหรับเหล่าแฟชั่นนิสต้าในกรุงเทพฯ

การเลือกเสื้อผ้าวินเทจไม่ใช่แค่การตามกระแส แต่เป็นการแสดงออกถึงตัวตนผ่านเสื้อผ้าที่มีเรื่องราวและประวัติศาสตร์ ซึ่งทำให้สไตล์การแต่งตัวมีมิติและความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

2. สปอร์ตแจ็กเก็ต: นิยามใหม่ของความลำลอง (Sports Jackets)

สปอร์ตแจ็กเก็ตได้กลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้งในฐานะไอเท็มชิ้นสำคัญที่ช่วยยกระดับลุคแคชชวลให้ดูน่าสนใจขึ้น แต่ในเวอร์ชัน 2025 นี้ สปอร์ตแจ็กเก็ตถูกออกแบบให้มีรูปทรงที่ไม่เป็นทางการและผ่อนคลายกว่าเบลเซอร์แบบดั้งเดิม โดยเน้นการใช้วัสดุที่เบาสบาย เช่น ผ้าไนลอน ผ้าคอตตอน หรือผ้าเทคนิคอลต่างๆ ทำให้เหมาะกับสภาพอากาศของเมืองไทย

จุดเด่นของสปอร์ตแจ็กเก็ตในซีซั่นนี้คือความสามารถในการนำมาสร้างเลเยอร์ได้อย่างหลากหลาย สามารถสวมทับเสื้อยืดเรียบๆ หรือเสื้อเชิ้ตเพื่อเพิ่มโครงสร้างให้กับลุคโดยรวม การจับคู่ที่เห็นได้บ่อยบนรันเวย์คือการสวมสปอร์ตแจ็กเก็ตกับกางเกงยีนส์เข้ารูปหรือกางเกงสแลคทรงกระบอกเล็ก ซึ่งช่วยสร้างสมดุลระหว่างความลำลองและความสุภาพ ทำให้สามารถสวมใส่ได้ในหลายโอกาส ตั้งแต่การไปทำงานในวันสบายๆ จนถึงการไปพบปะสังสรรค์ในช่วงเย็น เทรนด์นี้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ต้องการเสื้อผ้าที่ปรับเปลี่ยนได้ง่ายและใช้งานได้จริง

3. เสน่ห์แห่งโบฮีเมียนร่วมสมัย (Bohemian)

สไตล์โบฮีเมียนยังคงเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง แต่ได้รับการปรับโฉมให้มีความทันสมัยและหรูหรามากขึ้น BKKFW 2025 นำเสนอแฟชั่นโบฮีเมียนในมุมมองใหม่ที่ลดทอนความฟุ้งฝันลง แต่เพิ่มความเรียบโก้เข้ามาแทนที่ ผ่านการใช้วัสดุอย่างผ้ากำมะหยี่ในโทนสีเข้ม การเลือกใช้เสื้อผ้าในโทนสีคาราเมล สีน้ำตาลไหม้ หรือสีเอิร์ธโทนต่างๆ

กางเกงยีนส์ที่มีการตัดเย็บหรือตกแต่งดีเทลเฉพาะตัวกลายเป็นไอเท็มหลักที่นำมาจับคู่กับเสื้อเบลาส์ผ้าพริ้วหรือเสื้อถักโครเชต์ ในส่วนของเครื่องประดับมีการเลือกใช้ไอเท็มที่ดูโดดเด่นแต่ไม่มากเกินไป เช่น กำไลข้อมือซ้อนกันหลายชิ้น หรือต่างหูแบบห่วงขนาดใหญ่ ลุคโดยรวมของโบฮีเมียนสไตล์ใหม่นี้จึงเป็นการผสมผสานระหว่างความอิสระเสรีและความชิคแบบคนเมือง ทำให้ได้สไตล์ที่ไม่เป็นทางการจนเกินไป แต่ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์และความน่าค้นหา

4. อิทธิพลมินิมัลจาก YEEZY Line

กระแสสตรีทแวร์ยังคงแข็งแกร่ง และอิทธิพลจากแฟชั่นไลน์ YEEZY ของ Kanye West ก็ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนบนรันเวย์แฟชั่นกรุงเทพฯ เอกลักษณ์ของสไตล์นี้คือการเน้นโครงสร้างเสื้อผ้าที่เรียบง่ายแต่โดดเด่นด้วยรูปทรง โดยเฉพาะเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์ เสื้อสเวตเตอร์ และฮู้ดดี้ ที่มาในโทนสีอ่อนและซีด (Muted and Faded Tones) เช่น สีเบจ สีเทา สีโอลีฟ และสีเอิร์ธโทนต่างๆ

หัวใจสำคัญของสไตล์ YEEZY คือการสร้างลุคที่ดู “น้อยแต่มาก” (Minimalism) โดยให้ความสำคัญกับซิลลูเอทและคุณภาพของเนื้อผ้ามากกว่าการใช้ลวดลายหรือสีสันที่ฉูดฉาด การจับคู่ไอเท็มต่างๆ ในโทนสีเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน (Monochromatic) เป็นเทคนิคที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายเพื่อสร้างลุคที่ดูเท่และร่วมสมัย รองเท้าสนีกเกอร์ดีไซน์ล้ำสมัยยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยคอมพลีทลุคนี้ให้สมบูรณ์ ความนิยมในสไตล์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย มีความเรียบง่าย แต่สามารถสะท้อนตัวตนที่ชัดเจนของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี

5. มรดกไทยในแฟชั่นสมัยใหม่ (Thai Contemporary Inspiration)

เทรนด์ที่น่าภาคภูมิใจที่สุดจาก BKKFW 2025 คือการที่เหล่าดีไซเนอร์ไทยหันมาหยิบยกแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมและมรดกของไทยมาสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นร่วมสมัยอย่างกว้างขวาง สอดคล้องกับงานใหญ่อย่าง STYLE Bangkok และ Thailand Fashion Week ที่เน้นการผสมผสานระหว่างรากเหง้าทางวัฒนธรรมกับแนวคิดแฟชั่นสากล

เราได้เห็นการฟื้นฟูผ้าไทยท้องถิ่น เช่น ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าฝ้ายทอมือ และผ้าย้อมคราม ถูกนำมาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าที่มีดีไซน์ทันสมัย ตั้งแต่ชุดเดรส เสื้อคลุม ไปจนถึงกางเกงทรงสวย นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนงานคราฟต์และการออกแบบที่ยั่งยืน โดยนำเทคนิคงานฝีมือดั้งเดิมมาประยุกต์ใช้กับเสื้อผ้าสมัยใหม่ ทำให้เกิดเป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์และบอกเล่าเรื่องราวความเป็นไทยได้อย่างน่าประทับใจ เทรนด์นี้ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น แต่ยังเป็นการประกาศให้โลกได้เห็นถึงความงดงามและความคิดสร้างสรรค์ของวงการแฟชั่นไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก

สรุปเทรนด์แฟชั่น BKKFW 2025 ในภาพรวม

ตารางเปรียบเทียบ 5 เทรนด์แฟชั่นเด่นจาก BKKFW 2025
เทรนด์ (Trend) ไอเท็มหลัก (Key Items) ลักษณะเด่น (Key Characteristics) โอกาสในการสวมใส่ (Occasions)
Vintage Style แจ็กเก็ตยีนส์, เสื้อยืดวงดนตรี, กางเกงยีนส์ทรงคลาสสิก การผสมผสานของเก่ากับของใหม่, มีเรื่องราว, สะท้อนตัวตน วันสบายๆ, คาเฟ่, งานแสดงดนตรี, กิจกรรมนอกบ้าน
Sports Jackets สปอร์ตแจ็กเก็ตทรงลำลอง, เบลเซอร์ผ้าเบา ไม่เป็นทางการ, สร้างเลเยอร์, คล่องตัว, เรียบง่ายแต่มีสไตล์ ทำงาน (Smart Casual), พบปะสังสรรค์, เดินทาง
Bohemian เสื้อผ้าผ้ากำมะหยี่, เดรสยาว, เครื่องประดับห่วง, ยีนส์ดีเทลพิเศษ อิสระ, มีความเป็นศิลปิน, เน้นโทนสีอบอุ่นและงานฝีมือ พักผ่อน, เดินทางท่องเที่ยว, งานเทศกาล, แฮงเอาท์
YEEZY Line เสื้อยืดโอเวอร์ไซส์, สเวตเตอร์, สนีกเกอร์ดีไซน์ล้ำ มินิมัล, โทนสีซีดและเอิร์ธโทน, เน้นซิลลูเอทและโครงสร้าง สตรีทสไตล์, กิจกรรมในเมือง, วันที่ต้องการความสบาย
Thai Contemporary เสื้อผ้าจากผ้าไทย, ชุดเดรสตัดเย็บสมัยใหม่, ไอเท็มงานคราฟต์ ผสมผสานวัฒนธรรมและความทันสมัย, ยั่งยืน, มีเอกลักษณ์ งานอีเวนต์, โอกาสพิเศษ, วันทำงานที่ต้องการความโดดเด่น

พาเลตต์สีที่ต้องจับตามองในปี 2025

นอกเหนือจากสไตล์และซิลลูเอทแล้ว โทนสีก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ BKKFW 2025 ได้ชี้ทิศทางไว้อย่างชัดเจน ปีนี้จะเห็นการกลับมาของโทนสีที่เป็นกลาง (Neutral Tones) และสีเอิร์ธโทนเป็นหลัก ซึ่งช่วยให้การมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าทำได้ง่ายและหลากหลายมากขึ้น สีเหล่านี้ยังให้ความรู้สึกสงบ สุภาพ และดูหรูหราโดยไม่ต้องพยายาม

ในขณะเดียวกัน สีพาสเทลที่กำลังมาแรงคือ สีชมพูแป้ง (Powder Pink) ซึ่งเป็นสีชมพูเฉดอ่อนที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและโรแมนติก แต่ก็สามารถนำมาสร้างลุคที่ดูเท่ได้เมื่อจับคู่กับสีเข้มอย่างสีเทาหรือสีกรมท่า การเลือกใช้โทนสีเหล่านี้จะช่วยให้ตู้เสื้อผ้าของคุณมีความทันสมัยและสามารถปรับใช้ได้กับหลายๆ เทรนด์ที่กล่าวมาข้างต้นได้อย่างลงตัว

บทสรุป: การเตรียมตัวสู่ซีซั่นใหม่

งาน Bangkok International Fashion Week 2025 ได้มอบภาพอนาคตของวงการแฟชั่นไทยที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและความคิดสร้างสรรค์ เทรนด์ทั้ง 5 สไตล์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหวนคืนของวินเทจ, ความลำลองของสปอร์ตแจ็กเก็ต, เสน่ห์ของโบฮีเมียน, อิทธิพลมินิมัลแบบ YEEZY, หรือการเชิดชูมรดกไทย ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงการเปิดกว้างและการผสมผสานวัฒนธรรมที่ไร้ขีดจำกัด

การอัปเดตตู้เสื้อผ้าสำหรับซีซั่นใหม่จึงไม่ใช่เพียงการไล่ตามเทรนด์ แต่เป็นการเลือกสรรไอเท็มที่สามารถสะท้อนตัวตนและไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่ได้ดีที่สุด โดยนำแรงบันดาลใจจากรันเวย์มาปรับใช้ให้เข้ากับสไตล์ของตนเอง การเข้าใจในเทรนด์หลักเหล่านี้จะเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยให้การแต่งตัวในทุกๆ วันเป็นเรื่องสนุกและเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ พร้อมที่จะก้าวสู่ปี 2025 อย่างมีสไตล์