เปิดตัว ‘ทางรัฐ’ Super App รัฐบาล รับเงินดิจิทัล 10,000
- ประเด็นสำคัญของแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และนโยบายเงินดิจิทัล
- ทำความรู้จัก ‘ทางรัฐ’ Super App: ประตูสู่บริการภาครัฐยุคใหม่
- เปิดตัว ‘ทางรัฐ’ Super App รัฐบาล รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท: ช่องทางหลักหนึ่งเดียว
- ฟีเจอร์เด่นและบริการที่ครอบคลุมทุกช่วงวัยในแอปฯ ‘ทางรัฐ’
- ไทม์ไลน์โครงการและการเตรียมความพร้อมของประชาชน
- การเปรียบเทียบบทบาทของแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และ ‘เป๋าตัง’
- บทสรุปและอนาคตของบริการภาครัฐผ่าน Super App
รัฐบาลไทยได้ประกาศแผนการพัฒนาและยกระดับการให้บริการภาครัฐสู่รูปแบบดิจิทัลอย่างเต็มตัว ผ่านการผลักดันแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ให้เป็น Super App ศูนย์กลางที่รวบรวมบริการต่างๆ ของรัฐไว้ในที่เดียว พร้อมกำหนดให้เป็นช่องทางหลักสำหรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งสำคัญอย่างโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนวิธีการเข้าถึงสิทธิประโยชน์และบริการของประชาชน แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำคัญของรัฐบาลดิจิทัลในอนาคตอีกด้วย
ประเด็นสำคัญของแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และนโยบายเงินดิจิทัล
- ช่องทางหลักรับเงินดิจิทัล: แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ถูกกำหนดให้เป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับการลงทะเบียน ยืนยันตัวตน และรับสิทธิ์ในโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ศูนย์รวมบริการภาครัฐ: ‘ทางรัฐ’ เป็น Super App ที่มีเป้าหมายเพื่อรวมบริการภาครัฐมากกว่า 100 บริการไว้ในที่เดียว ตั้งแต่การตรวจสอบสิทธิประกันสังคม, ข้อมูลเครดิตบูโร, ใบสั่งจราจร ไปจนถึงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
- ไทม์ไลน์การเปิดใช้งาน: โครงการมีกำหนดการเปิดให้ประชาชนใช้งานและรับสิทธิ์เงินดิจิทัลวอลเล็ตภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 โดยระบบจะพร้อมให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในช่วงเดือนตุลาคม 2567 ถึงมีนาคม 2568
- การเตรียมความพร้อม: ประชาชนผู้มีสิทธิ์จะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และดำเนินการลงทะเบียนพร้อมยืนยันตัวตนตามขั้นตอนที่รัฐบาลจะประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป
- ความครอบคลุมทุกช่วงวัย: แอปพลิเคชันถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของประชาชนทุกกลุ่มอายุ ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยชรา เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของตนเองได้อย่างเท่าเทียม
การเปิดตัว ‘ทางรัฐ’ Super App รัฐบาล รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท นับเป็นยุทธศาสตร์เชิงรุกที่สำคัญของรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมดิจิทัล โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นกลไกในการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ แต่ยังเป็นการปฏิรูปรูปแบบการให้บริการของภาครัฐให้มีความทันสมัย สะดวก รวดเร็ว และเข้าถึงง่ายสำหรับประชาชนทุกคน แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ จะทำหน้าที่เป็นประตูสู่บริการดิจิทัลภาครัฐ (Digital Government Services) ลดความซ้ำซ้อนในการติดต่อหน่วยงานราชการ ลดการใช้เอกสาร และช่วยให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและใช้สิทธิ์ต่างๆ ได้จากทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว
ทำความรู้จัก ‘ทางรัฐ’ Super App: ประตูสู่บริการภาครัฐยุคใหม่
ก่อนที่จะเป็นที่รู้จักในฐานะช่องทางหลักของโครงการเงินดิจิทัล แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแพลตฟอร์มกลางในการให้บริการของภาครัฐ การยกระดับสู่การเป็น ‘Super App’ ในครั้งนี้ ถือเป็นการขยายขีดความสามารถและรวบรวมบริการที่กระจัดกระจายอยู่ตามหน่วยงานต่างๆ ให้มาอยู่ภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกัน เพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุดแก่ประชาชน
นิยามและบทบาทของ ‘ทางรัฐ’
‘ทางรัฐ’ คือ แอปพลิเคชันบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ (One-Stop Service) ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) ของหน่วยงานรัฐได้จากจุดเดียว บทบาทสำคัญของแอปพลิเคชันนี้คือการเป็นตัวกลางที่เชื่อมโยงระหว่างประชาชนกับฐานข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมการปกครอง, สำนักงานประกันสังคม, กรมสรรพากร, กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น
เป้าหมายหลักคือการลดขั้นตอนที่ยุ่งยากและลดภาระของประชาชนในการต้องเดินทางไปติดต่อราชการด้วยตนเอง เพียงแค่ยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ ตรวจสอบสิทธิประโยชน์ ชำระค่าบริการต่างๆ และติดตามสถานะคำขอได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
‘ทางรัฐ’ Super App เปรียบเสมือนศูนย์กลางบริการประชาชนยุคใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย พร้อมตอบสนองนโยบายสำคัญของรัฐบาลในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หน่วยงานที่รับผิดชอบและเป้าหมายการพัฒนา
โครงการพัฒนาแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล DGA ทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐต่างๆ เพื่อนำบริการเข้ามาเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มกลาง และพัฒนาระบบให้มีความเสถียร ปลอดภัย และใช้งานง่าย
เป้าหมายการพัฒนาในระยะยาวคือการทำให้ ‘ทางรัฐ’ เป็นแอปพลิเคชันที่ประชาชนทุกคนต้องมีติดเครื่องไว้ สามารถใช้บริการได้ตลอดชีวิต ตั้งแต่การแจ้งเกิด ตรวจสอบสิทธิ์เงินอุดหนุนบุตร, ตรวจสอบผลการเรียน, จัดการหนี้ กยศ., เช็คสิทธิ์ประกันสังคม, ยื่นภาษี, ตรวจสอบข้อมูลเครดิต, ไปจนถึงการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการสร้างระบบนิเวศบริการภาครัฐที่ไร้รอยต่อและตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกมิติ
เปิดตัว ‘ทางรัฐ’ Super App รัฐบาล รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท: ช่องทางหลักหนึ่งเดียว
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ กลายเป็นที่จับตามองอย่างกว้างขวาง คือการได้รับเลือกจากรัฐบาลให้เป็นเครื่องมือหลักในการดำเนินนโยบายเรือธงอย่างโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศครั้งใหญ่
ความเชื่อมโยงระหว่าง ‘ทางรัฐ’ และโครงการเงินดิจิทัล
รัฐบาลได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะใช้ ‘ทางรัฐ’ เป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งหมายความว่าประชาชนผู้มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด จะต้องดำเนินการทุกขั้นตอนผ่านแอปพลิเคชันนี้ ตั้งแต่การลงทะเบียนเพื่อแสดงความจำนงในการรับสิทธิ์, การยืนยันตัวตน (e-KYC) เพื่อป้องกันการสวมรอย, ไปจนถึงการรับเงินและการใช้จ่ายเงินผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ตที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน
การเลือกใช้ ‘ทางรัฐ’ มีข้อดีหลายประการ ทั้งในด้านการรวมศูนย์ข้อมูล ทำให้รัฐบาลสามารถบริหารจัดการโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถตรวจสอบและป้องกันการทุจริตได้ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกัน ประชาชนก็จะได้รับความสะดวกสบาย ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันใหม่หลายตัว และสามารถใช้บัญชีผู้ใช้เดียวในการเข้าถึงทั้งบริการภาครัฐและสิทธิ์ตามนโยบายเศรษฐกิจ
ขั้นตอนการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิ์
แม้ว่ารายละเอียดขั้นตอนอย่างเป็นทางการจะยังต้องรอการประกาศจากรัฐบาลอีกครั้ง แต่โดยหลักการแล้ว กระบวนการรับสิทธิ์เงินดิจิทัลผ่าน ‘ทางรัฐ’ คาดว่าจะประกอบด้วยขั้นตอนพื้นฐานดังนี้:
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน: ประชาชนจะต้องดาวน์โหลดแอปฯ ‘ทางรัฐ’ จาก App Store (สำหรับ iOS) หรือ Google Play Store (สำหรับ Android)
- ลงทะเบียนสร้างบัญชีผู้ใช้: ผู้ใช้งานใหม่จะต้องทำการลงทะเบียน โดยใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์มือถือ
- การยืนยันตัวตนดิจิทัล (e-KYC): ขั้นตอนนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัยและยืนยันว่าเป็นเจ้าของบัญชีจริง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพใบหน้าคู่กับบัตรประชาชน หรือการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันอื่นที่มีการยืนยันตัวตนไว้แล้ว เช่น แอปพลิเคชันของธนาคาร
- กดรับสิทธิ์โครงการเงินดิจิทัล: เมื่อการยืนยันตัวตนเสร็จสมบูรณ์ ภายในแอปพลิเคชันจะมีเมนูหรือฟังก์ชันให้ผู้มีสิทธิ์กดยืนยันเพื่อเข้าร่วมโครงการ
- รอรับเงินเข้าดิจิทัลวอลเล็ต: หลังจากตรวจสอบคุณสมบัติและยืนยันสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว เงินจำนวน 10,000 บาท จะถูกโอนเข้าสู่ดิจิทัลวอลเล็ตที่ผูกกับบัญชี ‘ทางรัฐ’ ของผู้ใช้
เงื่อนไขและข้อจำกัดเบื้องต้นในการใช้จ่าย
ตามข้อมูลที่เปิดเผยเบื้องต้น การใช้จ่ายเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะมีเงื่อนไขและข้อจำกัดบางประการเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ โดยอาจมีข้อกำหนด เช่น การจำกัดพื้นที่การใช้จ่ายให้อยู่ในอำเภอตามทะเบียนบ้าน และการกำหนดประเภทสินค้าและบริการที่ไม่สามารถใช้เงินจากโครงการนี้ชำระได้ เช่น สินค้าฟุ่มเฟือยบางประเภท, การชำระหนี้สิน หรือการซื้อหน่วยลงทุน เป็นต้น ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดจะมีการประกาศให้ทราบอย่างชัดเจนต่อไป
ฟีเจอร์เด่นและบริการที่ครอบคลุมทุกช่วงวัยในแอปฯ ‘ทางรัฐ’
นอกเหนือจากบทบาทในโครงการเงินดิจิทัลแล้ว จุดแข็งที่แท้จริงของ Super App ‘ทางรัฐ’ คือการรวบรวมบริการที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตของประชาชนไว้อย่างครบวงจร โดยแบ่งตามกลุ่มเป้าหมายและช่วงวัยได้อย่างน่าสนใจ
บริการสำหรับเด็กและวัยเรียน
- ตรวจสอบสิทธิ์เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด: ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบสถานะการรับเงินอุดหนุนบุตรได้อย่างสะดวก
- ข้อมูลด้านการศึกษา: ตรวจสอบผลการเรียน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษา
- กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.): ผู้กู้ยืมสามารถตรวจสอบยอดหนี้คงค้าง, ตารางการชำระเงิน, และดำเนินการชำระหนี้ผ่านแอปพลิเคชันได้
บริการสำหรับวัยทำงาน
- ข้อมูลประกันสังคม: ตรวจสอบสิทธิประโยชน์ประกันสังคมตามมาตราต่างๆ (ม.33, ม.39, ม.40), เช็คประวัติการส่งเงินสมทบ และสถานะการใช้สิทธิ์รักษาพยาบาล
- ข้อมูลเครดิตบูโร: สามารถยื่นขอตรวจสอบข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลได้ด้วยตนเองผ่านแอปฯ เพื่อใช้ในการวางแผนทางการเงินหรือประกอบการขอสินเชื่อ
- การยื่นภาษีและตรวจสอบข้อมูลทางภาษี: เชื่อมต่อกับระบบของกรมสรรพากรเพื่ออำนวยความสะดวกในการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และตรวจสอบข้อมูลการลดหย่อนภาษี
- ตรวจสอบใบสั่งจราจร: เช็คประวัติใบสั่งจราจรที่ยังไม่ได้ชำระและดำเนินการชำระค่าปรับออนไลน์ได้
บริการสำหรับผู้สูงอายุและสวัสดิการทั่วไป
- ตรวจสอบสิทธิ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ: ผู้สูงอายุหรือผู้ดูแลสามารถตรวจสอบสถานะการรับเบี้ยยังชีพได้
- สิทธิบัตรทอง (สปสช.): ตรวจสอบสิทธิ์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และข้อมูลหน่วยบริการประจำ
- ข้อมูลทะเบียนราษฎร: ตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลตามทะเบียนบ้าน และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานทะเบียนของกรมการปกครอง
- ค่าน้ำ-ค่าไฟ: ตรวจสอบยอดค่าใช้บริการและชำระเงินได้โดยตรงผ่านแอปพลิเคชัน
ไทม์ไลน์โครงการและการเตรียมความพร้อมของประชาชน
เพื่อให้โครงการสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางกรอบระยะเวลาการพัฒนาและเปิดตัวระบบไว้อย่างชัดเจน ควบคู่ไปกับการสื่อสารให้ประชาชนเตรียมความพร้อมล่วงหน้า
กรอบเวลาการพัฒนาและเปิดใช้งานระบบ
โครงการพัฒนาระบบสำหรับรองรับนโยบายเงินดิจิทัลบนแอปฯ ‘ทางรัฐ’ ซึ่งมีงบประมาณโครงการราว 95 ล้านบาท ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 และมีกำหนดการสำคัญดังนี้:
- กรกฎาคม – ธันวาคม 2567: ช่วงเวลาของการพัฒนาระบบ, จัดประชุมเชิงปฏิบัติการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทำการทดสอบระบบในสภาพแวดล้อมต่างๆ เพื่อให้มั่นใจในเสถียรภาพและความปลอดภัย
- ไตรมาสที่ 4 ปี 2567 (ตุลาคม – ธันวาคม): เป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายจะเริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนและใช้จ่ายเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ตุลาคม 2567 – มีนาคม 2568: เป็นช่วงของการเปิดให้บริการระบบอย่างเป็นทางการ ควบคู่ไปกับการให้การสนับสนุนและดูแลระบบอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในช่วงแรก
สิ่งที่ประชาชนควรเตรียมตัวล่วงหน้า
เพื่อไม่ให้พลาดสิทธิ์และสามารถใช้งานแอปพลิเคชันได้อย่างราบรื่น ประชาชนควรเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ดังนี้:
- เตรียมบัตรประจำตัวประชาชน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบัตรประชาชนยังไม่หมดอายุและอยู่ในสภาพดี เนื่องจากเป็นเอกสารสำคัญที่สุดในการยืนยันตัวตน
- เตรียมสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ต: แอปพลิเคชันจำเป็นต้องติดตั้งบนสมาร์ทโฟนที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ควรตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์และสัญญาณ
- อัปเดตข้อมูลส่วนตัว: หากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อ-นามสกุล หรือที่อยู่ ควรดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นปัจจุบัน
- ติดตามข่าวสารจากช่องทางที่เป็นทางการ: เพื่อป้องกันข้อมูลที่คลาดเคลื่อนหรือข่าวปลอม ควรติดตามการประกาศจากหน่วยงานของรัฐโดยตรง เช่น ทำเนียบรัฐบาล, กระทรวงการคลัง หรือสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA)
การเปรียบเทียบบทบาทของแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และ ‘เป๋าตัง’
การเปิดตัว ‘ทางรัฐ’ ในฐานะช่องทางหลักสำหรับโครงการเงินดิจิทัล ทำให้เกิดคำถามถึงบทบาทของแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ซึ่งเคยเป็นแอปฯ หลักในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดก่อนๆ ตารางด้านล่างนี้จะช่วยเปรียบเทียบให้เห็นภาพความแตกต่างและบทบาทของทั้งสองแอปพลิเคชันได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
คุณสมบัติ | ทางรัฐ (Thang Rath) | เป๋าตัง (Pao Tang) |
---|---|---|
บทบาทหลัก | Super App ศูนย์กลางบริการภาครัฐ (One-Stop Government Service) | แพลตฟอร์มด้านการเงินและสุขภาพครบวงจร (Open Platform for Financial & Health Services) |
หน่วยงานพัฒนาหลัก | สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) | ธนาคารกรุงไทย (KTB) |
โครงการเงินดิจิทัล 10,000 | เป็นช่องทางหลักสำหรับการลงทะเบียนและรับสิทธิ์ | ยังไม่มีการประกาศบทบาทที่ชัดเจนในโครงการนี้ |
ขอบเขตบริการ | เน้นการเข้าถึงข้อมูลและบริการของหน่วยงานรัฐ เช่น ประกันสังคม, กยศ., ข้อมูลทะเบียนราษฎร, ใบสั่ง | เน้นบริการทางการเงิน, G-Wallet, สลากดิจิทัล, บัตรทอง, ประกันสุขภาพ, การลงทุนผ่านพันธบัตร |
เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ | ปฏิรูปการบริการภาครัฐสู่รัฐบาลดิจิทัล ลดขั้นตอนและรวมศูนย์บริการ | สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินดิจิทัลของประเทศ และขยายสู่บริการอื่นๆ |
จากตารางจะเห็นได้ว่า ‘ทางรัฐ’ ถูกวางตำแหน่งให้เป็นศูนย์กลางของ “บริการ” ภาครัฐ ในขณะที่ ‘เป๋าตัง’ มีจุดแข็งในด้าน “ธุรกรรมทางการเงิน” และบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและการลงทุน การที่รัฐบาลเลือกใช้ ‘ทางรัฐ’ สำหรับโครงการเงินดิจิทัล สะท้อนถึงความต้องการที่จะผลักดันให้ประชาชนหันมาใช้แอปพลิเคชันศูนย์กลางของรัฐบาลมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการขยายบริการอื่นๆ ในอนาคต
บทสรุปและอนาคตของบริการภาครัฐผ่าน Super App
การเปิดตัว ‘ทางรัฐ’ Super App รัฐบาล รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิทัศน์ของบริการภาครัฐในประเทศไทย เป็นการผสมผสานระหว่างนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจกับการวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศในระยะยาว ‘ทางรัฐ’ ไม่ได้เป็นเพียงแอปพลิเคชันสำหรับรับเงิน แต่เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิและบริการที่ตนพึงได้รับอย่างสะดวกสบาย โปร่งใส และเท่าเทียม
ความสำเร็จของโครงการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ยังเป็นการสร้างความคุ้นเคยและส่งเสริมให้ประชาชนยอมรับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการติดต่อกับภาครัฐ ซึ่งจะปูทางไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบในอนาคต ที่ทุกบริการสามารถเข้าถึงได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
ดังนั้น การเตรียมความพร้อมโดยการติดตามข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและทำความเข้าใจขั้นตอนต่างๆ ที่จะประกาศออกมาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จาก Super App ‘ทางรัฐ’ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และไม่พลาดโอกาสในการรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่รัฐบาลมอบให้ ทั้งในโครงการเงินดิจิทัลและบริการอื่นๆ ที่จะตามมาในอนาคต