เปิดตัว ‘ทางรัฐ’ Super App รัฐบาล รับเงินดิจิทัล 10,000

สารบัญ

รัฐบาลได้ประกาศแผนการพัฒนาและยกระดับแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ให้เป็น Super App หลักของประเทศ เพื่อใช้เป็นช่องทางสำคัญในการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการให้บริการภาครัฐสู่รูปแบบดิจิทัลเต็มตัว

ภาพรวมของโครงการ Super App ‘ทางรัฐ’

  • ช่องทางหลัก: แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ถูกกำหนดให้เป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับการลงทะเบียนและรับสิทธิ์ในโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท
  • บริการครบวงจร: ‘ทางรัฐ’ ไม่ได้มีไว้สำหรับโครงการเงินดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังรวบรวมบริการภาครัฐหลากหลายประเภทไว้ในที่เดียว เช่น การตรวจสอบสิทธิประกันสังคม, ข้อมูลเครดิตบูโร, และใบสั่งจราจร
  • เชื่อมต่อระบบธนาคาร: ระบบหลังบ้านของแอปฯ จะเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้งของธนาคารต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายเงินดิจิทัล
  • กรอบเวลาที่ชัดเจน: การพัฒนาระบบสำหรับโครงการเงินดิจิทัลคาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐบาลตั้งเป้าจะเริ่มจ่ายเงิน
  • คุณสมบัติผู้รับสิทธิ์: มีการกำหนดเกณฑ์คุณสมบัติเบื้องต้นสำหรับผู้ที่จะได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เช่น สัญชาติไทย, อายุ, รายได้ และจำนวนเงินฝากในบัญชี

การเปิดตัว ‘ทางรัฐ’ Super App รัฐบาล รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท นับเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจและปรับปรุงการเข้าถึงบริการภาครัฐของประชาชนไทย แพลตฟอร์มดิจิทัลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นศูนย์กลางบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ (One-stop service) โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการแจกจ่ายและบริหารจัดการเงินในโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาทแก่ผู้มีสิทธิ์ทั่วประเทศ ความเกี่ยวข้องของโครงการนี้จึงครอบคลุมทั้งในมิติของการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก และการปฏิรูปการให้บริการภาครัฐให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โครงการนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประชาชนผู้มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการจ่ายเงินได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการจำเป็นต้องทำความเข้าใจขั้นตอนการลงทะเบียนและใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นประตูสู่สวัสดิการและนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลในอนาคต การพัฒนานี้ไม่เพียงแต่อำนวยความสะดวกสบาย ลดขั้นตอน และประหยัดเวลาในการติดต่อราชการ แต่ยังส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมในการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใดหรือมีช่วงวัยที่แตกต่างกัน

ทำความรู้จัก Super App ‘ทางรัฐ’ แพลตฟอร์มดิจิทัลจากภาครัฐ

แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ คือแพลตฟอร์มดิจิทัลที่พัฒนาโดยหน่วยงานภาครัฐของไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมบริการต่างๆ ของรัฐบาลมาไว้ในที่เดียว เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยผ่านโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน การยกระดับสู่การเป็น “Super App” หมายถึงการเพิ่มขีดความสามารถให้แอปพลิเคชันสามารถรองรับฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลายและครอบคลุมทุกมิติของชีวิตประชาชน ตั้งแต่การตรวจสอบสิทธิพื้นฐานไปจนถึงการทำธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ

‘ทางรัฐ’ คืออะไร?

‘ทางรัฐ’ เป็นแอปพลิเคชันที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางบริการอิเล็กทรอนิกส์ของภาครัฐ (Government Digital Service Platform) ถูกริเริ่มและเปิดตัวครั้งแรกในเดือนกันยายน ปี 2564 ด้วยแนวคิดที่ต้องการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์และบริการของรัฐได้ตลอดชีวิต ผ่านช่องทางดิจิทัลเพียงช่องทางเดียว โดยไม่ต้องดาวน์โหลดหลายแอปพลิเคชันหรือเข้าเว็บไซต์ของแต่ละหน่วยงานแยกกัน

หัวใจสำคัญของแอปพลิเคชันนี้คือการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลของหน่วยงานราชการต่างๆ เข้าด้วยกัน ทำให้สามารถแสดงผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการและบริการต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและเป็นปัจจุบัน เช่น ข้อมูลทะเบียนราษฎร, สิทธิประกันสังคม, สิทธิหลักประกันสุขภาพ (บัตรทอง), และข้อมูลด้านการศึกษา ซึ่งในระยะล่าสุด แอปพลิเคชันนี้ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญในการเป็นกลไกหลักสำหรับโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท

จุดประสงค์และฟีเจอร์หลักของแอปพลิเคชัน

เป้าหมายหลักในการพัฒนาแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ คือการอำนวยความสะดวกและลดภาระของประชาชนในการติดต่อกับหน่วยงานราชการ โดยมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ดังนี้:

  • การตรวจสอบสิทธิและสวัสดิการ: ผู้ใช้สามารถตรวจสอบสิทธิต่างๆ ของตนเองได้ครบจบในที่เดียว เช่น สิทธิเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด, สิทธิผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม (มาตรา 33, 39, 40), และสิทธิการรักษาพยาบาลต่างๆ
  • บริการด้านข้อมูลเครดิต: สามารถตรวจสอบสถานะข้อมูลเครดิตบูโรของตนเองได้ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการวางแผนทางการเงินและการขอสินเชื่อ
  • บริการด้านการคมนาคม: มีฟังก์ชันสำหรับตรวจสอบใบสั่งจราจรที่ยังไม่ชำระ และสามารถดำเนินการชำระค่าปรับผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันที ช่วยลดความยุ่งยากในการเดินทางไปยังสถานีตำรวจ
  • การเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ: เข้าถึงข้อมูลสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ เช่น สิทธิบัตรทอง และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล
  • ส่งเสริมความเท่าเทียม: การออกแบบแอปพลิเคชันมุ่งเน้นให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าผู้ใช้งานจะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือมีข้อจำกัดด้านการเดินทางก็ตาม
  • รองรับนโยบายเร่งด่วน: ฟีเจอร์ที่สำคัญที่สุดในปัจจุบันคือการพัฒนาฟังก์ชันกระเป๋าเงินดิจิทัล เพื่อรองรับการแจกจ่ายเงิน 10,000 บาทตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ไม่เพียงเป็นเครื่องมือในการรับเงินดิจิทัล แต่ยังเป็นประตูสู่บริการภาครัฐทั้งหมดในอนาคต ซึ่งจะเปลี่ยนวิถีการติดต่อราชการของคนไทยไปอย่างสิ้นเชิง

บทบาทของ ‘ทางรัฐ’ ในโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท

บทบาทของ 'ทางรัฐ' ในโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท

ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่นี้ แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ได้รับการกำหนดให้มีบทบาทเป็นแกนกลางในการดำเนินงานทั้งหมด ตั้งแต่ขั้นตอนการยืนยันตัวตน การรับเงิน ไปจนถึงการใช้จ่ายเงิน ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของภาครัฐที่มีอยู่แล้วให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ช่องทางหลักในการลงทะเบียนและรับสิทธิ์

รัฐบาลได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า ‘ทางรัฐ’ จะเป็นแอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการสำหรับโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ประชาชนผู้มีคุณสมบัติตามเกณฑ์จะต้องดาวน์โหลดและลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันนี้เพื่อยืนยันตัวตนและรับสิทธิ์ในโครงการ ระบบหลังบ้านของ ‘ทางรัฐ’ ถูกออกแบบมาให้สามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมการปกครอง เพื่อตรวจสอบสัญชาติและที่อยู่ และกรมสรรพากร เพื่อตรวจสอบข้อมูลรายได้ ซึ่งจะทำให้กระบวนการคัดกรองผู้มีสิทธิ์เป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

นอกจากนี้ ระบบยังถูกพัฒนาให้สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้งของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ซึ่งหมายความว่าเมื่อประชาชนได้รับเงิน 10,000 บาทเข้ามาในกระเป๋าเงินดิจิทัลบนแอปฯ ‘ทางรัฐ’ แล้ว จะสามารถเลือกใช้จ่ายเงินผ่านแอปฯ ธนาคารที่ตนเองคุ้นเคยได้ เป็นการสร้างความยืดหยุ่นและอำนวยความสะดวกสูงสุดแก่ผู้ใช้งาน

เงื่อนไขและคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ

เพื่อให้โครงการสามารถบรรลุเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างตรงจุด รัฐบาลได้กำหนดเงื่อนไขและคุณสมบัติเบื้องต้นสำหรับผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ในโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาทไว้ดังนี้:

  1. สัญชาติ: ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย
  2. ที่อยู่: มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามที่กำหนด
  3. อายุ: มีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ 15 กันยายน 2567
  4. เกณฑ์รายได้: มีรายได้พึงประเมินจากข้อมูลภาษีปี 2566 ไม่เกิน 840,000 บาทต่อปี
  5. เกณฑ์เงินฝาก: มีเงินฝากในบัญชีธนาคารทุกประเภทรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท

ผู้ที่เข้าเกณฑ์คุณสมบัติดังกล่าวทั้งหมด จะต้องดำเนินการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ เพื่อรับสิทธิ์ต่อไป โดยรายละเอียดและขั้นตอนอย่างเป็นทางการจะมีการประกาศให้ทราบอีกครั้ง

วิธีการใช้จ่ายเงินดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน

การใช้จ่ายเงินดิจิทัล 10,000 บาทที่ได้รับผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ จะเน้นการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศโดยตรง ในช่วงแรกของการใช้จ่าย รัฐบาลได้กำหนดข้อจำกัดเพื่อป้องกันการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดยมีแนวทางเบื้องต้นคือ ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ในทันที เงินที่ได้รับจะต้องถูกนำไปใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการผ่านระบบการชำระเงินดิจิทัล

ด้วยการเชื่อมต่อระบบระหว่าง ‘ทางรัฐ’ และแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้ง ประชาชนจะสามารถสแกนจ่ายเงินที่ร้านค้าได้อย่างสะดวก คล้ายกับการใช้จ่ายผ่านแอปฯ ธนาคารในปัจจุบัน เพียงแต่แหล่งเงินจะถูกหักจากยอดเงินในกระเป๋าดิจิทัล 10,000 บาทก่อน วิธีการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ตั้งแต่ผู้บริโภคไปยังร้านค้า และต่อไปยังผู้ผลิตในลำดับถัดไป

ไทม์ไลน์การพัฒนาและการเปิดใช้งาน

โครงการพัฒนาระบบกระเป๋าเงินดิจิทัลบนแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ มีกรอบเวลาการดำเนินงานที่ชัดเจน เพื่อให้ทันต่อกำหนดการจ่ายเงินที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้

ประวัติการพัฒนาและเป้าหมาย

แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ไม่ใช่แอปพลิเคชันใหม่ที่เพิ่งถูกสร้างขึ้น แต่เป็นการต่อยอดจากแพลตฟอร์มเดิมที่เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 ซึ่งมีเป้าหมายระยะยาวในการเป็นศูนย์กลางบริการภาครัฐสำหรับประชาชนตลอดช่วงชีวิต ในเฟสปัจจุบัน รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 95 ล้านบาท เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาฟังก์ชันกระเป๋าเงินดิจิทัลโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการยกระดับครั้งสำคัญเพื่อรองรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่

กรอบเวลาการดำเนินงานโครงการเงินดิจิทัล

เพื่อให้โครงการสามารถเปิดใช้งานได้ทันตามเป้าหมาย ได้มีการวางแผนไทม์ไลน์การดำเนินงานไว้อย่างเป็นขั้นตอน ดังนี้:

  • ช่วงเดือนกรกฎาคม – กันยายน 2567: เป็นช่วงของการจัดซื้อจัดจ้าง และจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมและกำหนดแนวทางการพัฒนาระบบร่วมกัน
  • ช่วงเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม 2567: เป็นระยะเวลาของการพัฒนาระบบ (System Development) และการทดสอบระบบ (System Testing) อย่างเข้มข้น เพื่อให้แน่ใจว่าระบบมีความเสถียร ปลอดภัย และสามารถรองรับการใช้งานจากประชาชนจำนวนมากได้
  • ช่วงเดือนตุลาคม 2567 – มีนาคม 2568: คาดว่าระบบจะพร้อมให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ โดยการจ่ายเงินดิจิทัล 10,000 บาท มีเป้าหมายที่จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 (ตุลาคม – ธันวาคม)

เปรียบเทียบ ‘ทางรัฐ’ กับแอปพลิเคชันภาครัฐอื่น ๆ

เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น การเปรียบเทียบแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ กับแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจากโครงการภาครัฐในอดีต จะช่วยให้เข้าใจถึงบทบาทและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน

ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติและวัตถุประสงค์หลักระหว่างแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และ ‘เป๋าตัง’
ฟีเจอร์/วัตถุประสงค์ แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ (Super App) แอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’
วัตถุประสงค์หลัก เป็นศูนย์กลางบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ (One-stop service) สำหรับทุกสิทธิและบริการตลอดชีวิต เป็นแพลตฟอร์มกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ที่เน้นรองรับโครงการช่วยเหลือและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเป็นหลัก
โครงการที่รองรับ โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท และนโยบายอื่นๆ ในอนาคต โครงการคนละครึ่ง, เราเที่ยวด้วยกัน, เราชนะ และการซื้อสลากดิจิทัล
บริการภาครัฐที่เชื่อมโยง ครอบคลุมหลากหลายมิติ เช่น ข้อมูลทะเบียนราษฎร, ประกันสังคม, เครดิตบูโร, ใบสั่งจราจร, สิทธิสุขภาพ เน้นบริการด้านการเงินเป็นหลัก เช่น G-Wallet, การลงทุนผ่านวอลเล็ต สบม., และบริการด้านสุขภาพบางส่วน (Health Wallet)
รูปแบบการใช้จ่าย เชื่อมต่อกับแอปฯ โมบายแบงก์กิ้งของธนาคารต่างๆ เพื่อความยืดหยุ่นในการใช้จ่าย ใช้จ่ายผ่าน G-Wallet ภายในแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ โดยตรง

การเตรียมความพร้อมสำหรับประชาชน

เพื่อให้ไม่พลาดโอกาสในการเข้าร่วมโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท และเพื่อความสะดวกในการเข้าถึงบริการภาครัฐอื่นๆ ในอนาคต ประชาชนควรเตรียมความพร้อมในการใช้งานแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ตั้งแต่เนิ่นๆ

วิธีดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’

ประชาชนสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ได้ฟรี ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:

  1. เปิด App Store (สำหรับผู้ใช้ iPhone) หรือ Google Play Store (สำหรับผู้ใช้ Android)
  2. ในช่องค้นหา พิมพ์คำว่า “ทางรัฐ”
  3. เลือกแอปพลิเคชันที่ถูกต้อง (สังเกตโลโก้ที่เป็นทางการ) และกดปุ่ม “ติดตั้ง” หรือ “Get”
  4. เมื่อติดตั้งเสร็จสิ้น ให้เปิดแอปพลิเคชันและดำเนินการลงทะเบียนตามขั้นตอนที่ปรากฏบนหน้าจอ ซึ่งโดยทั่วไปจะมีการยืนยันตัวตนผ่านบัตรประจำตัวประชาชนและแอปพลิเคชันธนาคารเพื่อความปลอดภัย

ข้อควรรู้และคำแนะนำในการใช้งาน

เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น มีคำแนะนำบางประการที่ควรพิจารณา:

  • ติดตามข่าวสารอย่างเป็นทางการ: ควรติดตามการประกาศรายละเอียดและขั้นตอนการลงทะเบียนโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาทจากช่องทางของรัฐบาลโดยตรง เพื่อป้องกันข้อมูลที่คลาดเคลื่อนหรือข่าวปลอม
  • ดาวน์โหลดแอปฯ ล่วงหน้า: แนะนำให้ดาวน์โหลดและลงทะเบียนใช้งานแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ไว้ล่วงหน้า เพื่อทำความคุ้นเคยกับฟังก์ชันต่างๆ และเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความหน่วงของระบบที่อาจเกิดขึ้นหากมีผู้เข้าใช้งานพร้อมกันจำนวนมากในช่วงเปิดลงทะเบียน
  • ตรวจสอบคุณสมบัติของตนเอง: ประชาชนควรตรวจสอบคุณสมบัติของตนเองตามเกณฑ์ที่ประกาศไว้เบื้องต้น (รายได้, เงินฝาก) เพื่อประเมินสิทธิ์ของตนเอง
  • ทางเลือกในการใช้จ่าย: แม้ ‘ทางรัฐ’ จะเป็นแอปฯ หลักในการรับเงิน แต่การใช้จ่ายสามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชันธนาคารที่เชื่อมต่อไว้ ซึ่งมอบความสะดวกให้กับผู้ที่คุ้นเคยกับการใช้งานโมบายแบงก์กิ้งอยู่แล้ว

บทสรุปและแนวโน้มในอนาคต

การผลักดันให้แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ เป็น Super App ของภาครัฐ และใช้เป็นกลไกหลักในโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ถือเป็นก้าวที่สำคัญในการปฏิรูปบริการภาครัฐของประเทศไทยไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ แพลตฟอร์มนี้ไม่เพียงแต่จะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ยังวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการให้บริการภาครัฐในระยะยาว

โครงการนี้จะช่วยลดความซ้ำซ้อนในการพัฒนาแอปพลิเคชันของแต่ละหน่วยงาน, สร้างมาตรฐานกลางในการเชื่อมโยงข้อมูล, และที่สำคัญที่สุดคือการมอบความสะดวกสบายและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แนวโน้มในอนาคตคือ ‘ทางรัฐ’ จะกลายเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับคนไทยในการติดต่อกับภาครัฐ เปรียบเสมือน “บัตรประชาชนดิจิทัล” ที่รวมทุกบริการสำคัญไว้ในที่เดียว ดังนั้น การเตรียมความพร้อมและเรียนรู้วิธีการใช้งานแอปพลิเคชันนี้จึงเป็นสิ่งที่ประชาชนทุกคนควรให้ความสำคัญ เพื่อให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและไม่พลาดสิทธิประโยชน์ที่ตนเองพึงได้รับจากนโยบายของรัฐบาล ทั้งในปัจจุบันและอนาคต