แบรนด์ไทยทุ่มงบจ้าง ‘คนทิพย์’ ไลฟ์สด ยอดขายพุ่ง!

สารบัญ

ในปี 2025 วงการการตลาดดิจิทัลของไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อกลยุทธ์ แบรนด์ไทยทุ่มงบจ้าง ‘คนทิพย์’ ไลฟ์สด ยอดขายพุ่ง! ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง เทรนด์การใช้ Virtual Influencer หรืออินฟลูเอนเซอร์ที่สร้างจากปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีบทบาทในการทำ Live Commerce ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่น่าทึ่ง และกำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการขายสินค้าออนไลน์ในอนาคต

สรุปประเด็นสำคัญของการตลาดด้วย Virtual Influencer

  • การปฏิวัติ Live Commerce: ในปี 2025 แบรนด์ไทยจำนวนมากได้นำ Virtual Influencer หรือ ‘คนทิพย์’ มาใช้เป็นเครื่องมือหลักในการไลฟ์สดขายสินค้า เพื่อสร้างความแตกต่างและเข้าถึงลูกค้าในวงกว้างขึ้น
  • ประสิทธิภาพไร้ขีดจำกัด: อินฟลูเอนเซอร์ AI สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ โดยไม่มีความเหนื่อยล้า ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างโอกาสในการขายได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
  • การเติบโตที่พิสูจน์ได้: แพลตฟอร์มอย่าง TikTok Shop เป็นกรณีศึกษาที่ชัดเจน โดยข้อมูลในปี 2567 ระบุว่าร้านค้าและแบรนด์ไทยมีการเติบโตขึ้นถึง 8 เท่าจากการใช้กลยุทธ์ Live Commerce ซึ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญให้เกิดการนำ AI มาปรับใช้
  • ความหลากหลายในอุตสาหกรรม: เทรนด์นี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มสินค้าแฟชั่นหรือความงาม แต่ยังขยายไปสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อาหาร, การท่องเที่ยว, อัญมณี, และสินค้าสำหรับเด็ก
  • ความคลุมเครือด้านงบประมาณ: แม้ว่าความสำเร็จจะเป็นที่ประจักษ์ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับตัวเลขงบประมาณที่แบรนด์ไทยใช้ในการพัฒนาหรือจ้าง Virtual Influencer เหล่านี้

ปรากฏการณ์ Virtual Influencer กับ Live Commerce ไทย

ปรากฏการณ์ที่ แบรนด์ไทยทุ่มงบจ้าง ‘คนทิพย์’ ไลฟ์สด ยอดขายพุ่ง! สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในภูมิทัศน์การตลาดดิจิทัลของประเทศไทย ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันสูงและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค แบรนด์ต่างๆ จำเป็นต้องแสวงหากลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างความโดดเด่นและเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในรูปแบบของ Virtual Influencer จึงเป็นคำตอบที่น่าสนใจและตอบโจทย์ความท้าทายในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

การเกิดขึ้นของเทรนด์นี้ไม่ได้เป็นเพียงกระแสชั่วคราว แต่เป็นผลลัพธ์จากการพัฒนาของเทคโนโลยี AI ที่ก้าวหน้าขึ้น ประกอบกับความสำเร็จของรูปแบบการค้าปลีกผ่านการไลฟ์สด หรือ Live Commerce ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดไทย ผู้บริโภคคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าผ่านการชมวิดีโอเรียลไทม์ ซึ่งสร้างประสบการณ์ที่ใกล้ชิดและน่าเชื่อถือมากกว่าการดูภาพนิ่ง การมาถึงของ ‘คนทิพย์’ จึงเป็นการต่อยอดความสำเร็จนี้ไปอีกขั้น โดยการนำเสนอรูปแบบการไลฟ์ที่แปลกใหม่และมีความยืดหยุ่นสูงกว่าเดิม

นิยามของ ‘คนทิพย์’ หรือ Virtual Influencer

Virtual Influencer หรือที่นิยมเรียกกันว่า ‘คนทิพย์’ คือ บุคคลเสมือนจริงที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก (CGI) และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตัวตนเหล่านี้มีรูปลักษณ์ บุคลิก และเรื่องราวเป็นของตัวเอง ไม่ต่างจากอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นมนุษย์จริง สามารถโพสต์ภาพบนโซเชียลมีเดีย มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตาม และที่สำคัญคือสามารถทำหน้าที่เป็นพรีเซนเตอร์หรือผู้ดำเนินรายการไลฟ์สดเพื่อขายสินค้าได้

สิ่งที่ทำให้ Virtual Influencer แตกต่างคือการที่แบรนด์สามารถควบคุมภาพลักษณ์และเนื้อหาการสื่อสารได้อย่างสมบูรณ์ 100% ลดความเสี่ยงจากปัญหาพฤติกรรมส่วนตัวที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งเป็นความกังวลหลักในการทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นมนุษย์

เหตุผลที่แบรนด์ไทยหันมาใช้ AI ไลฟ์สด

การตัดสินใจของแบรนด์ต่างๆ ในการนำ ‘คนทิพย์’ มาใช้ในการไลฟ์สดมีปัจจัยขับเคลื่อนหลายประการ ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์ในเชิงธุรกิจอย่างชัดเจน:

  1. การทำงานต่อเนื่อง 24/7: จุดเด่นที่สุดคือความสามารถในการไลฟ์สดอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาหรือความเหนื่อยล้า แบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มโอกาสในการปิดการขายในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงดึกหรือเช้ามืด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อินฟลูเอนเซอร์คนจริงอาจไม่สะดวกทำงาน
  2. การควบคุมภาพลักษณ์และสาร: แบรนด์สามารถออกแบบบุคลิก หน้าตา และสไตล์การพูดของ Virtual Influencer ให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายและภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้การสื่อสารมีความสม่ำเสมอและเป็นไปในทิศทางเดียวกันเสมอ
  3. ลดความเสี่ยงด้านชื่อเสียง: อินฟลูเอนเซอร์ AI ไม่มีชีวิตส่วนตัว จึงไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดข่าวฉาวหรือประเด็นดราม่าที่อาจส่งผลเสียต่อแบรนด์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่แบรนด์ให้ความสำคัญอย่างมากในยุคที่ข่าวกระจายไปอย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์
  4. ความแปลกใหม่และดึงดูดความสนใจ: การใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยสร้างความตื่นเต้นและดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำและถูกพูดถึงในวงกว้าง ซึ่งเป็นผลดีต่อการสร้างการรับรู้ (Brand Awareness)

การเติบโตและการประยุกต์ใช้ในตลาดธุรกิจไทย

การเติบโตและการประยุกต์ใช้ในตลาดธุรกิจไทย

กระแสการใช้ ‘คนทิพย์’ ในการทำ Live Commerce ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดอีกต่อไป แต่ได้ถูกนำมาปฏิบัติจริงและสร้างผลลัพธ์ที่น่าพอใจให้กับหลายธุรกิจในประเทศไทยแล้ว การเติบโตของการใช้งานเทคโนโลยีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของตลาดและความต้องการโซลูชันทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

แพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนความสำเร็จ

TikTok Shop ถือเป็นแพลตฟอร์มที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันความสำเร็จของ Live Commerce ในประเทศไทย ด้วยฐานผู้ใช้จำนวนมหาศาลและอัลกอริทึมที่เอื้อต่อการค้นพบเนื้อหาใหม่ๆ ทำให้การไลฟ์สดบนแพลตฟอร์มนี้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ข้อมูลจากปี 2567 แสดงให้เห็นว่า ร้านค้าและแบรนด์ในประเทศไทยที่ใช้กลยุทธ์การขายผ่านไลฟ์สดบน TikTok Shop มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นถึง 8 เท่า ตัวเลขนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพมหาศาลของ Live Commerce และเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้แบรนด์มองหาหนทางเพิ่มประสิทธิภาพการไลฟ์สด ซึ่งการใช้ ‘คนทิพย์’ ก็คือหนึ่งในคำตอบนั้น

ความสำเร็จบนแพลตฟอร์มนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยเปิดรับการซื้อขายผ่านวิดีโอสตรีมมิง และเมื่อมีการนำเสนอด้วยรูปแบบที่แปลกใหม่อย่าง Virtual Influencer ก็ยิ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้ดียิ่งขึ้น

อุตสาหกรรมที่นำเทรนด์การใช้ ‘คนทิพย์’

เดิมทีหลายคนอาจมองว่าการใช้ Virtual Influencer จะจำกัดอยู่แค่ในกลุ่มสินค้าแฟชั่นหรือเครื่องสำอาง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เทรนด์นี้ได้ขยายตัวไปสู่หลากหลายกลุ่มธุรกิจอย่างรวดเร็ว ข้อมูลจากผู้ให้บริการแพลตฟอร์มไลฟ์สดอย่าง Shoplus ยืนยันว่าแบรนด์จากอุตสาหกรรมต่างๆ กำลังหันมาใช้กลยุทธ์นี้เพื่อเพิ่มยอดขาย ได้แก่:

  • กลุ่มแฟชั่นและเครื่องประดับ: สามารถนำเสนอสินค้าบนตัว ‘คนทิพย์’ ที่มีรูปร่างและสไตล์ตามที่ออกแบบไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
  • กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว: ใช้ Virtual Influencer เป็นไกด์นำเที่ยวเสมือนจริง เพื่อโปรโมตสถานที่และแพ็กเกจทัวร์
  • กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม: สร้างสรรค์คอนเทนต์รีวิวหรือสาธิตการทำอาหารที่น่าสนใจและควบคุมการผลิตได้ง่าย
  • กลุ่มอัญมณีและทองคำ: นำเสนอสินค้ามูลค่าสูงด้วยภาพลักษณ์ที่หรูหราและน่าเชื่อถือ ผ่านพรีเซนเตอร์เสมือนจริง
  • กลุ่มสินค้าสำหรับเด็ก: สร้างตัวละคร Virtual Influencer ที่เป็นมิตรและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กและผู้ปกครองได้ง่าย

เทคโนโลยีเบื้องหลังการไลฟ์สดด้วย AI

ความสำเร็จของการไลฟ์สดด้วย ‘คนทิพย์’ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวตนเสมือนจริงเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องอาศัยระบบหลังบ้านที่แข็งแกร่ง ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มด้าน Live Commerce ได้พัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อช่วยลดภาระและเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย เช่น ระบบจัดการคำสั่งซื้ออัตโนมัติ, ระบบตอบแชทลูกค้าด้วย AI (Chatbot) ที่สามารถตอบคำถามพื้นฐานและให้ข้อมูลสินค้าได้ทันที สิ่งเหล่านี้ช่วยให้กระบวนการขายระหว่างการไลฟ์สดเป็นไปอย่างราบรื่น แม้จะมีผู้ชมและคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากพร้อมกันก็ตาม

เปรียบเทียบประสิทธิภาพ: อินฟลูเอนเซอร์คนจริง ปะทะ ‘คนทิพย์’

การเกิดขึ้นของอินฟลูเอนเซอร์ AI ทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นมนุษย์จริงในหลายมิติ ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างก็มีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป

ตารางเปรียบเทียบคุณลักษณะระหว่างอินฟลูเอนเซอร์คนจริงและ Virtual Influencer ในการทำ Live Commerce
คุณสมบัติ อินฟลูเอนเซอร์คนจริง Virtual Influencer (‘คนทิพย์’)
ชั่วโมงการทำงาน จำกัดตามสภาพร่างกายและความพร้อมส่วนตัว สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง 7 วัน
ความสม่ำเสมอ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ สุขภาพ และสถานการณ์ส่วนตัว มีความสม่ำเสมอ 100% ในการนำเสนอและบุคลิกภาพ
การสร้างปฏิสัมพันธ์ สร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์และความรู้สึกจริงใจได้ดีกว่า ปฏิสัมพันธ์เป็นไปตามสคริปต์หรือโปรแกรมที่ตั้งไว้
ความเสี่ยง มีความเสี่ยงด้านพฤติกรรมส่วนตัว ข่าวฉาว หรือการย้ายสังกัด ไม่มีความเสี่ยงด้านพฤติกรรมส่วนตัว (ความเสี่ยงจะอยู่ที่ด้านเทคนิค)
การควบคุม การควบคุมสารเป็นไปตามข้อตกลง แต่อาจมีการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว แบรนด์สามารถควบคุมเนื้อหาและภาพลักษณ์ได้ทั้งหมด
ต้นทุน ค่าจ้างตามเรทราคา, ส่วนแบ่งยอดขาย, มีความผันผวนสูง ต้นทุนในการพัฒนาและดูแลรักษาระบบ (อาจสูงในช่วงแรก)

ผลกระทบและทิศทางอนาคตของวงการการตลาดดิจิทัล

การมาถึงของ Virtual Influencer ไม่เพียงแต่สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับแบรนด์ แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นมนุษย์ และยังเป็นการกำหนดทิศทางใหม่ของการตลาดในอนาคต

ความท้าทายใหม่ของอินฟลูเอนเซอร์ตัวจริง

การแข่งขันในตลาดอินฟลูเอนเซอร์จะทวีความรุนแรงขึ้น อินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นมนุษย์จะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่ไม่เคยหลับใหลและไม่เคยทำผิดพลาด สิ่งนี้บีบให้พวกเขาต้องพัฒนาตัวเองและสร้างจุดเด่นที่ไม่สามารถทดแทนได้ด้วยเทคโนโลยี

ทักษะที่สำคัญสำหรับอินฟลูเอนเซอร์ในยุคต่อไปคือการสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและจริงใจกับผู้ติดตาม การแสดงความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์ การเล่าเรื่องที่น่าติดตาม และการสร้างคอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ AI ยังไม่สามารถทำได้เทียบเท่ามนุษย์ อินฟลูเอนเซอร์ที่ประสบความสำเร็จจะต้องเปลี่ยนบทบาทจากแค่ “ผู้โปรโมตสินค้า” ไปสู่การเป็น “ผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีคุณค่า” อย่างแท้จริง

อนาคตของ Live Commerce และเทรนด์ธุรกิจปี 2025

เทรนด์ธุรกิจในปี 2025 และปีต่อๆ ไป จะมุ่งเน้นไปที่การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและประสบการณ์ของมนุษย์ (Human Touch) มากขึ้น ในขณะที่ Virtual Influencer จะกลายเป็นเครื่องมือมาตรฐานสำหรับการไลฟ์สดที่ต้องการความต่อเนื่องและประสิทธิภาพสูง อินฟลูเอนเซอร์คนจริงจะถูกใช้ในแคมเปญที่ต้องการสร้างความน่าเชื่อถือและความผูกพันทางอารมณ์เป็นพิเศษ

เราอาจจะได้เห็นโมเดลการทำงานร่วมกันระหว่าง ‘คนทิพย์’ และคนจริง เช่น การจัดไลฟ์สดร่วมกันเพื่อสร้างความแปลกใหม่ หรือการให้ Virtual Influencer ทำหน้าที่ให้ข้อมูลพื้นฐานของสินค้า และส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์ตอบคำถามในเชิงลึก เป็นต้น อนาคตของ Live Commerce คือการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายเพื่อสร้างประสบการณ์การชอปปิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้กับลูกค้า

บทสรุป: ก้าวต่อไปของแบรนด์ไทยในยุค AI

ปรากฏการณ์ แบรนด์ไทยทุ่มงบจ้าง ‘คนทิพย์’ ไลฟ์สด ยอดขายพุ่ง! ไม่ใช่เพียงกระแสการตลาดที่ผ่านมาแล้วผ่านไป แต่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการเข้าสู่ยุคใหม่ของการตลาดดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ การนำ Virtual Influencer มาใช้ใน Live Commerce ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในการเพิ่มยอดขาย สร้างการรับรู้ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมหาศาล

สำหรับแบรนด์ไทย การปรับตัวและเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น อินฟลูเอนเซอร์ AI ถือเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความอยู่รอดและเติบโตท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด แม้ว่าข้อมูลเชิงลึกด้านงบประมาณจะยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นก็เป็นเครื่องยืนยันว่าการลงทุนในเทคโนโลยีนี้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและจะกลายเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การตลาดที่ขาดไม่ได้ในอนาคตอันใกล้นี้ การผสมผสานระหว่างประสิทธิภาพของ AI และความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์จะเป็นกุญแจสำคัญที่นำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน