Bangkok Art Biennale 2025: 7 พิกัดห้ามพลาด ถ่ายรูปสวย

มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ กลับมาสร้างปรากฏการณ์ทางศิลปะให้กรุงเทพมหานครมีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยในครั้งนี้จะพาไปสำรวจ Bangkok Art Biennale 2025: 7 พิกัดห้ามพลาด ถ่ายรูปสวย ที่คัดสรรมาสำหรับผู้ที่หลงใหลในศิลปะและการถ่ายภาพโดยเฉพาะ

• เทศกาล Bangkok Art Biennale 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม 2567 ถึง 25 กุมภาพันธ์ 2568 ภายใต้แนวคิด “Nurture Gaia” หรือ “โอบอุ้มโลก”
• รวบรวมผลงานจากศิลปินชั้นนำ 76 คน จาก 39 ประเทศทั่วโลก จัดแสดงใน 11 สถานที่สำคัญทั่วกรุงเทพฯ
• ผสมผสานพื้นที่จัดแสดงที่หลากหลาย ตั้งแต่วัดเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาไปจนถึงศูนย์การค้าและอาคารสมัยใหม่ใจกลางเมือง
• บทความนี้มุ่งเน้นแนะนำ 7 สถานที่ไฮไลต์ซึ่งมีศักยภาพในการเป็นฉากหลังสำหรับภาพถ่ายที่น่าประทับใจ
• การเข้าชมส่วนใหญ่ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่บางสถานที่อาจมีข้อกำหนดเฉพาะ เช่น ค่าธรรมเนียมเข้าชมปกติ หรือการแต่งกายที่สุภาพ

มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Bangkok Art Biennale 2025: 7 พิกัดห้ามพลาด ถ่ายรูปสวย ได้กลับมาเป็นครั้งที่ 4 เพื่อเปลี่ยนกรุงเทพมหานครให้กลายเป็นหอศิลป์ขนาดใหญ่ที่มีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยเทศกาลในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Nurture Gaia” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสมมติฐานไกอา (Gaia hypothesis) ที่มองว่าโลกคือสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่หนึ่งเดียว งานนี้จึงเป็นพื้นที่ให้ศิลปินได้สำรวจและตีความประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นิเวศวิทยา และความรับผิดชอบร่วมกันของมนุษยชาติผ่านผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ ตลอดระยะเวลาการจัดงานตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2567 ถึง 25 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้ชมจะได้สัมผัสกับผลงานของศิลปินระดับโลกกว่า 76 คน จาก 39 ประเทศ ที่จะถูกจัดแสดงกระจายตัวอยู่ตามสถานที่สำคัญ 11 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ตั้งแต่โบราณสถานริมแม่น้ำเจ้าพระยาไปจนถึงศูนย์กลางวัฒนธรรมและย่านธุรกิจสมัยใหม่

ภาพรวมของ Bangkok Art Biennale 2025

Bangkok Art Biennale หรือ BAB คือเทศกาลศิลปะร่วมสมัยที่จัดขึ้นทุก ๆ สองปี โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในศูนย์กลางด้านศิลปะและวัฒนธรรมของโลก สำหรับการจัดงานครั้งที่ 4 ในปี 2024-2025 นี้ เทศกาลได้ขยายขอบเขตการจัดแสดงไปในสถานที่ที่มีความหลากหลายทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากขึ้น ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสประสบการณ์ทางศิลปะในบริบทที่แตกต่างกันไป การกระจายตัวของสถานที่จัดงาน ไม่ว่าจะเป็นวัดอรุณราชวรารามฯ, วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์), หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) และศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ล้วนเป็นการสร้างบทสนทนาที่น่าสนใจระหว่างศิลปะร่วมสมัยกับมรดกทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมของเมือง

เจาะลึกแนวคิด “Nurture Gaia” ศิลปะเพื่อโอบอุ้มโลก

แนวคิดหลัก “Nurture Gaia” ใน BAB 2025 ไม่ได้เป็นเพียงหัวข้อการจัดแสดง แต่เป็นคำเชิญชวนให้ผู้ชมและศิลปินหันมาไตร่ตรองถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับโลกอย่างลึกซึ้ง สมมติฐานไกอาที่เสนอโดย เจมส์ เลิฟล็อก มองว่าโลกเปรียบเสมือนระบบสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนและสามารถควบคุมตนเองได้ ซึ่งทุกองค์ประกอบล้วนเชื่อมโยงถึงกัน ศิลปินที่เข้าร่วมจึงนำเสนอผลงานที่สะท้อนถึงผลกระทบของกิจกรรมมนุษย์ที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ประเด็นเรื่องสตรีนิยมที่เชื่อมโยงกับการดูแลและปกป้องธรรมชาติ ไปจนถึงการตั้งคำถามถึงอนาคตของระบบนิเวศบนโลกใบนี้ ผลงานศิลปะที่จัดแสดงจึงมีตั้งแต่จิตรกรรม ประติมากรรม ศิลปะจัดวางขนาดใหญ่ วิดีโออาร์ต และผลงานแบบอินเทอร์แอคทีฟ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้เป็นส่วนหนึ่งในการตีความและค้นหาความหมาย

แนวคิด “Nurture Gaia” ทำหน้าที่เป็นแกนกลางที่เชื่อมโยงผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตระหนักรู้และความรับผิดชอบร่วมกันต่ออนาคตของโลก

เปิดลายแทง 7 พิกัดศิลป์ที่ไม่ควรพลาดใน BAB 2025

จาก 11 สถานที่จัดแสดงทั่วกรุงเทพฯ ได้มีการคัดเลือก 7 พิกัดไฮไลต์ที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านผลงานศิลปะที่จัดแสดงและศักยภาพในการเป็นฉากหลังสำหรับการถ่ายภาพที่สวยงาม เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากเทศกาลนี้ให้ครบรส ทั้งการเสพงานศิลป์และการสร้างสรรค์คอนเทนต์

1. หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC): ศูนย์กลางศิลปะร่วมสมัย

BACC ถือเป็นหัวใจสำคัญของการจัดงาน BAB มาโดยตลอด ด้วยสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์และพื้นที่จัดแสดงขนาดใหญ่ ทำให้ที่นี่สามารถรองรับผลงานศิลปะจัดวาง (Installation Art) ขนาดใหญ่และผลงานที่ต้องการพื้นที่ในการนำเสนอได้อย่างเต็มที่ จุดเด่นที่พลาดไม่ได้คือโถงกลางที่มีทางเดินวนเป็นเกลียวสูงขึ้นไปหลายชั้น ซึ่งมักจะเป็นพื้นที่สำหรับจัดแสดงผลงานชิ้นเอกของเทศกาลเสมอ มุมมองจากชั้นบนลงมาด้านล่าง หรือการถ่ายภาพตามแนวโค้งของอาคารที่โอบล้อมผลงานศิลปะไว้ จะสร้างสรรค์ภาพถ่ายที่มีมิติและน่าสนใจ นอกจากนี้ แสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาในอาคารยังช่วยให้บรรยากาศดูโปร่งสบาย เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคลคู่กับงานศิลป์อย่างยิ่ง

2. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร: ศิลปะริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา

การนำศิลปะร่วมสมัยไปจัดแสดงในพื้นที่ของวัดอรุณฯ หรือวัดแจ้ง ถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจได้เสมอ ความงดงามของพระปรางค์ที่ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีสันสดใส กลายเป็นฉากหลังที่ทรงพลังให้กับผลงานศิลปะสมัยใหม่ สร้างการ juxtaposition หรือการ juxtaposition ที่น่าสนใจระหว่างความเก่าและความใหม่ ศิลปินมักสร้างสรรค์ผลงานแบบเฉพาะที่ (Site-specific) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมของวัด มุมถ่ายภาพที่แนะนำคือการจับภาพผลงานศิลปะโดยมีพระปรางค์เป็นพื้นหลัง หรือการถ่ายภาพริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มองเห็นทัศนียภาพของวัดและงานศิลป์ไปพร้อมกัน โดยเฉพาะช่วงเวลาเย็นที่แสงอาทิตย์ตกจะให้ภาพที่งดงามเป็นพิเศษ

3. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์): ความงามแห่งศิลป์ในมรดกโลก

วัดโพธิ์เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เข้าร่วมเป็นพื้นที่จัดแสดงงาน BAB 2025 ความโดดเด่นของวัดโพธิ์ไม่ได้มีเพียงพระพุทธไสยาสน์ที่งดงาม แต่ยังรวมถึงหมู่พระมหาเจดีย์สี่รัชกาลและสถาปัตยกรรมไทยอันวิจิตรตระการตา การจัดวางผลงานศิลปะร่วมสมัยท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยรายละเอียดทางวัฒนธรรมเช่นนี้ ทำให้เกิดบทสนทนาที่ลึกซึ้งระหว่างอดีตกับปัจจุบัน การถ่ายภาพในบริเวณนี้จึงเป็นการบันทึกเรื่องราวซ้อนทับกันระหว่างมรดกของชาติกับมุมมองของศิลปินระดับโลก ลองมองหามุมที่ผลงานศิลปะสะท้อนหรือโต้ตอบกับลวดลายบนผนังโบสถ์หรือสีสันของเจดีย์ จะได้ภาพที่มีองค์ประกอบและเรื่องราวที่ซับซ้อนน่าค้นหา

4. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป: กรุสมบัติทางศิลปะของชาติ

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพในบรรยากาศแกลเลอรีแบบดั้งเดิม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป คือสถานที่ที่ตอบโจทย์อย่างยิ่ง อาคารเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกแห่งนี้เป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะที่สำคัญของไทยมาอย่างยาวนาน การจัดแสดงผลงาน BAB 2025 ในพื้นที่นี้จะเน้นไปที่ผลงานประเภทจิตรกรรม ประติมากรรม และสื่อผสม ที่ต้องการสภาพแวดล้อมการจัดแสดงที่ควบคุมแสงและอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี จุดเด่นของการถ่ายภาพที่นี่คือการได้โฟกัสไปที่รายละเอียดของผลงานศิลปะอย่างเต็มที่ โดยมีผนังสีขาวและแสงไฟที่จัดไว้อย่างมืออาชีพเป็นฉากหลัง ช่วยขับเน้นให้ตัวผลงานและตัวแบบโดดเด่นขึ้นมา

5. ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC): พื้นที่ศิลปะในสถาปัตยกรรมสมัยใหม่

หลังจากปรับปรุงใหม่ QSNCC ได้กลายเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการจัดแสดงงานศิลปะขนาดใหญ่ ด้วยโถงจัดแสดงที่กว้างขวางและเพดานสูง สถาปัตยกรรมที่ทันสมัยและเรียบง่ายทำให้ที่นี่เป็นเหมือนผืนผ้าใบขนาดใหญ่ที่พร้อมให้ศิลปินเข้ามาสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างอิสระ ผู้ชมจะได้พบกับผลงานศิลปะจัดวางขนาดใหญ่ วิดีโออาร์ต หรือแม้กระทั่งผลงานที่ต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาผสมผสาน การถ่ายภาพที่ QSNCC จะได้ภาพที่มีความรู้สึกโอ่อ่า ทันสมัย และเน้นให้เห็นสเกลของงานศิลปะที่น่าทึ่งเมื่อเทียบกับขนาดของมนุษย์ พื้นที่โล่งกว้างยังเปิดโอกาสให้สามารถถ่ายภาพได้จากหลายมุมมองโดยไม่ถูกรบกวน

6. วัน แบงค็อก (One Bangkok): ศิลปะในใจกลางย่านธุรกิจ

One Bangkok คือโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่ผสมผสานพื้นที่สำนักงาน ที่พักอาศัย และพื้นที่ทางวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกัน การเป็นหนึ่งในสถานที่จัดงาน BAB 2025 ทำให้ศิลปะถูกนำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนเมืองอย่างแท้จริง ผลงานศิลปะที่จัดแสดงในบริเวณนี้มักจะเป็นประติมากรรมสาธารณะ (Public Sculpture) หรือศิลปะจัดวางที่ออกแบบมาให้มีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมและผู้คนในย่านธุรกิจ การถ่ายภาพที่นี่จึงมีเสน่ห์ของการผสมผสานระหว่างศิลปะ สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ และพลังของเมืองใหญ่ เป็นการบันทึกภาพงานศิลป์ในบริบทที่ไม่ใช่หอศิลป์ แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน

7. เซ็นทรัลเวิลด์ (Central World): งานศิลป์ที่ผสานกับไลฟ์สไตล์เมือง

การนำศิลปะมาจัดแสดงในศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่างเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้ศิลปะเข้าถึงผู้คนในวงกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลงานที่จัดแสดงบริเวณลานด้านหน้าหรือภายในศูนย์การค้ามักจะเป็นชิ้นงานที่สะดุดตาและเข้าใจง่าย เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้คนที่สัญจรไปมา การถ่ายภาพที่นี่จะได้บรรยากาศของความมีชีวิตชีวา ความวุ่นวายของเมืองที่ตัดกับความสงบนิ่งของผลงานศิลปะ เป็นการจับคู่ที่น่าสนใจระหว่างวัฒนธรรมชั้นสูงกับวัฒนธรรมป๊อป และยังเป็นโอกาสดีที่จะได้ภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นว่าศิลปะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของทุกพื้นที่ในเมืองได้อย่างไร

สรุปพิกัดห้ามพลาดสำหรับ BAB 2025

ข้อควรรู้และเคล็ดลับการเที่ยวชมงาน

เพื่อให้การเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์ศิลปะในงาน BAB 2025 เป็นไปอย่างราบรื่นและเต็มอิ่ม ควรมีการวางแผนและเตรียมตัวล่วงหน้า โดยมีข้อแนะนำดังนี้

การเดินทาง

เนื่องจากสถานที่จัดงานกระจายตัวอยู่ทั่วกรุงเทพฯ และบางแห่งตั้งอยู่ในบริเวณที่มีการจราจรหนาแน่น การใช้บริการขนส่งสาธารณะจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ระบบรถไฟฟ้า BTS และ MRT สามารถเข้าถึงสถานที่จัดงานส่วนใหญ่ได้อย่างสะดวก เช่น สถานีสยาม ชิดลม เพลินจิต ลุมพินี และสะพานตากสิน สำหรับสถานที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา การเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยาหรือเรือข้ามฟากจะมอบประสบการณ์ที่แตกต่างและหลีกเลี่ยงปัญหารถติดได้เป็นอย่างดี

ค่าเข้าชม

ข่าวดีสำหรับคนรักศิลปะคือการเข้าชมงาน Bangkok Art Biennale ในสถานที่ส่วนใหญ่ไม่มีค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม บางสถานที่ เช่น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป อาจมีการเก็บค่าธรรมเนียมเข้าชมตามปกติของสถานที่นั้น ๆ จึงควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากช่องทางประชาสัมพันธ์ของ BAB หรือของสถานที่นั้นๆ ก่อนเดินทาง

การแต่งกาย

เนื่องจากมีสถานที่จัดงานหลายแห่งเป็นวัดและศาสนสถาน เช่น วัดอรุณฯ, วัดโพธิ์, และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ผู้เข้าชมจึงต้องให้ความเคารพต่อสถานที่ด้วยการแต่งกายที่สุภาพเรียบร้อย โดยควรสวมเสื้อผ้าที่คลุมไหล่และกางเกงหรือกระโปรงที่ยาวคลุมเข่า เพื่อให้สามารถเข้าชมความงามของศิลปะและสถาปัตยกรรมได้อย่างไม่มีอุปสรรค

บทสรุป และแรงบันดาลใจจาก BAB 2025

Bangkok Art Biennale 2025 ไม่ใช่เป็นเพียงเทศกาลแสดงศิลปะ แต่เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพลวัตของกรุงเทพมหานครได้อย่างยอดเยี่ยม การนำเสนอผลงานศิลปะภายใต้แนวคิด “Nurture Gaia” เป็นการกระตุ้นเตือนให้สังคมหันมาใส่ใจประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนผ่านมุมมองที่สร้างสรรค์และทรงพลัง การเดินทางไปเยี่ยมชม 7 พิกัดที่แนะนำ ไม่เพียงแต่จะทำให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงามกลับมา แต่ยังเป็นโอกาสในการเปิดรับแรงบันดาลใจใหม่ ๆ และมองเห็นเมืองในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จึงนับเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่สนใจในศิลปะ วัฒนธรรม และการถ่ายภาพ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองความคิดสร้างสรรค์ครั้งยิ่งใหญ่นี้