ส่องเทรนด์ ปารีสแฟชั่นวีค 2026 สี-สไตล์ไหนมาแรง

สารบัญ

บทความนี้จะพาไปส่องเทรนด์ ปารีสแฟชั่นวีค 2026 สี-สไตล์ไหนมาแรง เพื่อสำรวจทิศทางแฟชั่นในอนาคตจากหนึ่งในเวทีที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก โดยจะเจาะลึกถึงพาเลตต์สีที่โดดเด่น แนวคิดด้านสไตล์ และไอเทมสำคัญที่คาดว่าจะกลายเป็นกระแสหลักในฤดูกาล Spring/Summer 2026 ซึ่งสะท้อนภาพรวมของอุตสาหกรรมแฟชั่นที่กำลังมุ่งไปข้างหน้า

ทิศทางแฟชั่นจากรันเวย์ปารีส

Paris Fashion Week เป็นหนึ่งในสี่งานสัปดาห์แฟชั่นหลักของโลก ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และเป็นเวทีสำคัญที่เหล่าดีไซเนอร์และแบรนด์ชั้นนำระดับโลกต่างมาจัดแสดงคอลเลกชันล่าสุด สำหรับฤดูกาล Spring/Summer 2026 ซึ่งมีกำหนดการจัดแสดงในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม 2025 นี้ ได้เผยให้เห็นทิศทางที่น่าสนใจ โดยเน้นการผสมผสานระหว่างความคลาสสิก นวัตกรรม และความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อม เทรนด์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การกำหนดสไตล์การแต่งตัว แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและสังคมในวงกว้างอีกด้วย

  • การกลับมาของโทนสีธรรมชาติ: เฉดสีเอิร์ธโทนและสีกลางที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติกลายเป็นหัวใจสำคัญของหลายคอลเลกชัน สื่อถึงความสงบ ความยั่งยืน และความเรียบง่ายที่หรูหรา
  • มินิมัลลิสต์ยุคใหม่: สไตล์ที่ได้รับอิทธิพลจากยุค 90 ถูกนำมาตีความใหม่ โดยเน้นที่โครงสร้างเสื้อผ้าที่เรียบง่ายแต่เฉียบคม และการเลือกใช้วัสดุที่ยั่งยืนและมีฟังก์ชันการใช้งานสูง
  • การปะทะของสีสันสดใส: แม้โทนสีธรรมชาติจะโดดเด่น แต่สีจัดจ้านที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโลกดิจิทัลก็เข้ามาสร้างความконทราสต์ที่น่าตื่นเต้น สะท้อนการเชื่อมต่อระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงและโลกเสมือน
  • การเชิดชูตัวตนและมรดกทางวัฒนธรรม: ดีไซเนอร์หลายคนนำเสนอเรื่องราวส่วนตัวและมรดกทางวัฒนธรรมผ่านผลงาน สร้างสรรค์เสื้อผ้าที่เปี่ยมไปด้วยความหมายและเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เจาะลึกเทรนด์สีมาแรงบนรันเวย์ PFW 2026

พาเลตต์สีสำหรับฤดูกาล Spring/Summer 2026 มีความซับซ้อนและหลากหลาย โดยเป็นการผสมผสานระหว่างความสงบของธรรมชาติและความมีชีวิตชีวาของเทคโนโลยี ซึ่งได้รับอิทธิพลจากทั้ง London และ New York Fashion Weeks และผ่านการวิเคราะห์จากสถาบันสีชั้นนำอย่าง Pantone Color Institute และบริษัทที่ปรึกษาด้านสี Peclers Paris โดยแบ่งกลุ่มสีหลักที่น่าจับตามองได้ดังนี้

กลุ่มสีเอิร์ธโทน: ความสง่างามเหนือกาลเวลา

กลุ่มสีเอิร์ธโทนยังคงเป็นรากฐานที่สำคัญของเทรนด์แฟชั่น 2026 โดยให้ความรู้สึกที่อบอุ่น มั่นคง และหรูหราเหนือกาลเวลา เฉดสีเหล่านี้สะท้อนถึงความต้องการกลับคืนสู่ธรรมชาติและความเรียบง่ายที่เปี่ยมด้วยรสนิยม

  • สีแดงเบอร์กันดี (Deep Burgundy): สีแดงเข้มอมม่วงที่ให้ความรู้สึกหรูหรา ลึกลับ และน่าค้นหา มักถูกใช้ในชุดเดรส เสื้อโค้ท หรือเครื่องหนังเพื่อเพิ่มความสง่างาม
  • สีน้ำตาลสนิม (Warm Rust): เฉดสีน้ำตาลอมส้มที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น มีชีวิตชีวา และเชื่อมโยงกับธรรมชาติ เหมาะสำหรับทั้งเสื้อผ้าสไตล์ลำลองและเป็นทางการ
  • สีเหลืองมัสตาร์ด (Mustard Yellow): สีเหลืองเข้มที่ช่วยเพิ่มความสดใสแต่ยังคงความคลาสสิกไว้ เป็นสีที่สร้างจุดเด่นให้กับลุคได้อย่างลงตัว
  • สีเขียวมะกอกเข้ม (Dark Olive): สีเขียวเข้มที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องแบบทหาร แต่ถูกนำมาปรับใช้ในแฟชั่นชั้นสูง ให้ลุคที่ดูเท่และร่วมสมัย

เฉดสีนิวทรัล: มินิมัลลิสต์และความยั่งยืน

อิทธิพลจากแฟชั่นยุค 90 และกระแสความยั่งยืน ทำให้กลุ่มสีนิวทรัลกลับมามีความสำคัญอีกครั้ง สีเหล่านี้เป็นตัวแทนของความเรียบง่าย การใช้งานได้จริง และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

  • สีเทาอ่อน (Soft Grays) และสีเทามิเนอรัล (Mineral Grays): เฉดสีเทาที่หลากหลาย ตั้งแต่เทาอ่อนไปจนถึงเทาเข้ม ให้ความรู้สึกสงบ สุขุม และทันสมัย สามารถจับคู่กับสีอื่นได้ง่าย
  • สีขาวครีม (Creamy Whites): สีขาวนวลที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติมากกว่าสีขาวสว่าง เหมาะสำหรับสร้างลุคที่ดูสะอาดตาและผ่อนคลาย
  • สีเบจทราย (Sand Beiges): สีเบจที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสีของผืนทราย เป็นสีพื้นที่ช่วยเสริมให้สีอื่นโดดเด่นขึ้นและให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ
  • สีพื้นฐานสำคัญ: สีดำยังคงเป็นสีหลักที่ขาดไม่ได้ในทุกคอลเลกชัน ด้วยความสามารถในการใช้งานที่หลากหลาย ตามมาด้วยสีกรมท่าและสีน้ำตาล ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการสร้างลุคที่ดูสุขุมและเป็นทางการ

สีสันตัดกัน: เติมความสดใสและทรงพลัง

เพื่อสร้างความสมดุลและเพิ่มความน่าสนใจให้กับพาเลตต์สีโดยรวม ดีไซเนอร์ได้นำกลุ่มสีจัดจ้านเข้ามาสร้างความконทราสต์ เพื่อสื่อถึงพลัง ความกล้าหาญ และความมีชีวิตชีวา สีเหล่านี้มักถูกใช้เป็นสีไฮไลต์เพื่อดึงดูดสายตา

  • กลุ่มสีแดงสด (Striking Reds): ตั้งแต่สีแดงวินเทอร์เบอร์รี (Winterberry), สีแดงพริก (Chili Oil), ไปจนถึงสีแดงดอกป๊อปปี้ (Poppy Red) และสีแดงเลือดนก (Scarlet Red) เป็นกลุ่มสีที่สื่อถึงความมั่นใจและพลังอันเปี่ยมล้น
  • สีส้มจัดจ้าน (Flamboyant Orange): สีส้มที่สว่างและสดใส ช่วยเพิ่มความสนุกสนานและความกระตือรือร้นให้กับคอลเลกชัน

สีฟ้าและเขียว: แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ

กลุ่มสีนี้สะท้อนถึงธีมสิ่งแวดล้อมและความใส่ใจในธรรมชาติ โดยเป็นการนำเสนอเฉดสีที่ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย และเชื่อมโยงกับนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อโลก

  • สีฟ้าลาเวนเดอร์ (Lavender Blues): สีฟ้าอมม่วงที่ให้ความรู้สึกสงบและชวนฝัน เป็นสีที่สื่อถึงความสมดุลและความคิดสร้างสรรค์
  • สีฟ้าอมเขียว (Blue-Teal): เช่น สี Lyons Blue เป็นการผสมผสานระหว่างสีฟ้าและสีเขียวที่ลงตัว ให้ความรู้สึกสดชื่นและล้ำสมัย
  • สีเขียวอ่อน (Soft Greens): เฉดสีเขียวที่นุ่มนวลและสบายตา สื่อถึงการเริ่มต้นใหม่ การเติบโต และความหวัง
สรุปภาพรวมเทรนด์สีหลักจากปารีสแฟชั่นวีค 2026 สำหรับฤดูกาล Spring/Summer
กลุ่มสี (Color Group) เฉดสีเด่น (Key Shades) คอนเซ็ปต์หลัก (Core Concept)
เอิร์ธโทน เบอร์กันดี, น้ำตาลสนิม, มัสตาร์ด, เขียวมะกอก ความสง่างามเหนือกาลเวลา, ความอบอุ่น, ความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ
นิวทรัล เทาอ่อน, ขาวครีม, เบจทราย, ดำ มินิมัลลิสต์, ความยั่งยืน, ความเรียบง่าย, ฟังก์ชันการใช้งาน
สีตัดกัน แดงสด, ส้มจัดจ้าน พลัง, ความมีชีวิตชีวา, ความกล้าแสดงออก, สร้างจุดเด่น
ฟ้าและเขียว ฟ้าลาเวนเดอร์, ฟ้าอมเขียว, เขียวอ่อน นวัตกรรม, ความสดชื่น, ความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อม

สไตล์และซิลูเอตที่น่าจับตามองในฤดูกาล Spring/Summer 2026

สไตล์และซิลูเอตที่น่าจับตามองในฤดูกาล Spring/Summer 2026

นอกเหนือจากเรื่องสีสันแล้ว แนวคิดด้านสไตล์และโครงสร้างของเสื้อผ้ายังเป็นองค์ประกอบสำคัญที่กำหนดทิศทางของเทรนด์แฟชั่น 2026 โดยเน้นการสร้างสมดุลระหว่างองค์ประกอบที่แตกต่างกันอย่างลงตัว

การผสมผสานระหว่างมรดกและนวัตกรรม

คอลเลกชันจำนวนมากสะท้อนถึงการเดินทางเพื่อค้นหาตัวตนและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ โดยมีการนำเอาองค์ประกอบดั้งเดิมหรือมรดกทางวัฒนธรรมมาผสมผสานกับนวัตกรรมสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคนิคการตัดเย็บแบบโบราณกับผ้าที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีล่าสุด หรือการนำลวดลายพื้นถิ่นมาตีความใหม่ในรูปแบบกราฟิกที่ทันสมัย แนวทางนี้เป็นการแสดงออกถึงการเคารพรากเหง้าไปพร้อมกับการก้าวไปสู่อนาคต

แฟชั่นที่ยั่งยืนและฟังก์ชันการใช้งาน

กระแสความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงแค่เทรนด์ แต่ได้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมแฟชั่น ดีไซเนอร์หันมาให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ผ้าที่ทำจากเส้นใยรีไซเคิล หรือผ้าที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ลดผลกระทบต่อโลก ควบคู่ไปกับการออกแบบที่เน้นฟังก์ชันการใช้งาน สามารถสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวันและมีความทนทาน สอดคล้องกับแนวคิดมินิมัลลิสต์ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าปริมาณ

สุนทรียภาพแห่งโลกดิจิทัล

อิทธิพลของโลกดิจิทัลและเทคโนโลยีได้แทรกซึมเข้ามาในโลกแฟชั่นอย่างเห็นได้ชัด การใช้สีสันที่สดใสจัดจ้านจนเกือบจะเรืองแสง (Digital-Amplified Vibrant Colors) และสีม่วงเข้ม (Intense Purples) เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการผสมผสานระหว่างสุนทรียภาพแบบดั้งเดิม (Analog) และสุนทรียภาพแบบใหม่จากโลกดิจิทัล (Digital)

การปรากฏตัวของสีสันที่สดใสราวกับหลุดออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นสัญญาณของการข้ามผ่านระหว่างโลกแห่งประเพณีที่จับต้องได้และสุนทรียภาพใหม่ๆ จากโลกดิจิทัล

บริบทและอิทธิพลของ Paris Fashion Week 2026

เทรนด์ที่เกิดขึ้นในปารีสแฟชั่นวีคสำหรับคอลเลกชัน Women’s Ready-to-Wear Spring/Summer 2026 ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยว แต่เป็นผลลัพธ์ของการกลั่นกรองและพัฒนาแนวคิดที่เกิดขึ้นก่อนหน้าในสัปดาห์แฟชั่นที่นิวยอร์กและลอนดอน อย่างไรก็ตาม ปารีสมักเป็นเวทีสุดท้ายที่สรุปและนำเสนอภาพรวมของเทรนด์ที่ชัดเจนและทรงอิทธิพลที่สุดสำหรับฤดูกาลนั้นๆ การวิเคราะห์จากหน่วยงานคาดการณ์เทรนด์อย่าง Peclers Paris ซึ่งมีประสบการณ์ยาวนานกว่า 50 ปี ได้รวบรวมพาเลตต์สีพิเศษกว่า 45 สีสำหรับฤดูกาลนี้ โดยเน้นโทนสีระดับกลางที่มีความซับซ้อน ซึ่งสะท้อนถึงแนวคิดการออกแบบที่มุ่งเน้นอนาคตอย่างแท้จริง

สรุป: เตรียมพร้อมรับเทรนด์แฟชั่น 2026

โดยสรุปแล้ว การส่องเทรนด์ ปารีสแฟชั่นวีค 2026 สี-สไตล์ไหนมาแรง ชี้ให้เห็นถึงทิศทางของอุตสาหกรรมที่กำลังมุ่งสู่ความสมดุลระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัย ธรรมชาติและเทคโนโลยี รวมถึงความหรูหราและความรับผิดชอบต่อสังคม เทรนด์สีเอิร์ธโทนและสีนิวทรัลที่เน้นความยั่งยืนจะกลายเป็นพื้นฐานสำคัญ ในขณะที่สีสันสดใสจากโลกดิจิทัลจะเข้ามาสร้างความตื่นเต้นและลูกเล่นใหม่ๆ ในด้านสไตล์ การผสมผสานมรดกเข้ากับนวัตกรรม และการให้ความสำคัญกับฟังก์ชันการใช้งานจะเป็นหัวใจหลักของการออกแบบ การทำความเข้าใจเทรนด์เหล่านี้จึงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมแฟชั่นและผู้ที่สนใจในการแต่งตัวตามเทรนด์ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับฤดูกาลแฟชั่นที่กำลังจะมาถึง