งบประมาณ 2569: ส่องกระทรวงไหนได้เงินมากสุด-น้อยสุด

สารบัญ

การจัดสรรงบประมาณแผ่นดินถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่สะท้อนทิศทางและลำดับความสำคัญของนโยบายรัฐบาลในแต่ละปีล่าสุด คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการพิจารณาและอนุมัติเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศในมิติต่างๆ ต่อไป

  • งบกลางยังคงเป็นรายการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงสุด แม้จะมีการปรับลดลงจากปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ
  • กระทรวงการคลังและกระทรวงศึกษาธิการเป็นสองกระทรวงหลักที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้น สะท้อนการให้ความสำคัญกับนโยบายด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
  • ภาพรวมงบประมาณปี 2569 มีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งอาจเป็นความท้าทายต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
  • มีการตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลังเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
  • กระทรวงแรงงานเป็นหนึ่งในกระทรวงที่อยู่ใน 10 อันดับสุดท้ายที่ได้รับงบประมาณน้อยที่สุด แม้จะมีการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

บทความนี้จะพาไปสำรวจรายละเอียดของ งบประมาณ 2569: ส่องกระทรวงไหนได้เงินมากสุด-น้อยสุด เพื่อวิเคราะห์ว่าหน่วยงานใดได้รับการจัดสรรงบประมาณเป็นลำดับต้นๆ และหน่วยงานใดอยู่ในกลุ่มที่ได้รับการจัดสรรน้อยลงมา การกระจายงบประมาณเช่นนี้บ่งบอกถึงนโยบายที่รัฐบาลมุ่งเน้นและอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยในปีต่อไปอย่างไร การทำความเข้าใจโครงสร้างงบประมาณจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับประชาชนทุกคนในการติดตามการทำงานของภาครัฐและความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น

งบประมาณแผ่นดินไม่ได้เป็นเพียงตัวเลข แต่คือแผนการทางการเงินของประเทศที่กำหนดว่าเงินภาษีของประชาชนจะถูกนำไปใช้อย่างไรเพื่อขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา สาธารณสุข ไปจนถึงความมั่นคง ดังนั้น การอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณปี 2569 จึงเป็นหมุดหมายสำคัญที่ทุกภาคส่วนจับตามอง เพราะเป็นตัวชี้วัดลำดับความสำคัญของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศในระยะสั้นและระยะยาว การกระจายงบประมาณที่แตกต่างกันไปยังกระทรวงต่างๆ ย่อมสะท้อนถึงวาระเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องการผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

ทิศทางการใช้จ่ายภาครัฐในปี 2569

การจัดทำงบประมาณแผ่นดินเป็นกระบวนการประจำปีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเริ่มต้นจากการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบกรอบวงเงินเบื้องต้น ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป สำหรับปีงบประมาณ 2569 กรอบวงเงินที่ถูกกำหนดขึ้นได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจและการรักษาวินัยทางการคลัง

เหตุผลที่การจัดสรรงบประมาณเป็นเรื่องสำคัญนั้น เนื่องจากเป็นเครื่องมือหลักที่รัฐบาลใช้ในการดำเนินนโยบายที่ได้ประกาศไว้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต การส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของประเทศ หรือการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ทุกโครงการและมาตรการจำเป็นต้องอาศัยเม็ดเงินจากงบประมาณแผ่นดินในการขับเคลื่อน ดังนั้น การพิจารณาว่ากระทรวงใดได้รับงบประมาณมากหรือน้อยจึงสามารถบ่งบอกได้ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับประเด็นใดเป็นพิเศษในปีนั้นๆ

ผู้ที่ควรให้ความสนใจในเรื่องนี้คือประชาชนทุกคนในฐานะผู้เสียภาษีและผู้ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากนโยบายของรัฐ นอกจากนี้ ภาคธุรกิจ นักลงทุน และนักวิชาการต่างก็ติดตามการจัดสรรงบประมาณอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจและปรับกลยุทธ์การดำเนินงานให้สอดคล้องกัน การจัดสรรงบประมาณในปี 2569 จึงไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่เป็นภาพสะท้อนอนาคตของประเทศไทยในอีกหนึ่งปีข้างหน้า

เจาะลึก 10 อันดับหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณสูงสุด

จากการเปิดเผยร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ได้มีการจัดลำดับหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงสุด 10 อันดับแรก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการให้น้ำหนักความสำคัญของรัฐบาลในด้านต่างๆ อย่างชัดเจน โดยหน่วยงานเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนกลไกหลักของประเทศ ตั้งแต่การบริหารจัดการภาพรวม การดูแลเศรษฐกิจ การพัฒนาคน ไปจนถึงการรักษาความมั่นคง

การเปรียบเทียบวงเงินงบประมาณที่แต่ละหน่วยงานได้รับ ทำให้เห็นภาพการกระจายทรัพยากรของประเทศได้เป็นอย่างดี โดย “งบกลาง” ยังคงเป็นรายการที่มีวงเงินสูงสุดตามธรรมเนียมปฏิบัติ แม้ว่าจะมีการปรับลดลงก็ตาม ตามมาด้วยกระทรวงที่มีภารกิจสำคัญในการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ การทำความเข้าใจลำดับเหล่านี้จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์นโยบายของรัฐบาลในเชิงลึกได้มากยิ่งขึ้น

ตารางเปรียบเทียบ 10 อันดับหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงสุดประจำปี 2569
อันดับ หน่วยงาน/กระทรวง วงเงินงบประมาณ (ล้านบาท)
1 งบกลาง 632,968
2 กระทรวงการคลัง 397,856
3 กระทรวงศึกษาธิการ 355,108
4 กระทรวงมหาดไทย 301,265
5 กระทรวงกลาโหม 204,434
6 กระทรวงคมนาคม 200,756
7 กระทรวงสาธารณสุข 177,639
8 กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 140,300
9 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 130,111
10 กระทรวงแรงงาน 68,069

วิเคราะห์การจัดสรรงบประมาณ: นัยยะสำคัญต่อนโยบายประเทศ

การจัดลำดับงบประมาณไม่ได้เป็นเพียงการเรียงตัวเลข แต่เป็นการสะท้อนภาพยุทธศาสตร์และนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ การวิเคราะห์ในรายละเอียดของแต่ละหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณสูง จะช่วยให้เข้าใจทิศทางการบริหารประเทศในปี 2569 ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

งบกลาง: งบประมาณก้อนใหญ่เพื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน

งบกลาง หรือ งบประมาณรายจ่ายงบกลาง คือเงินสำรองที่ตั้งไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า หรือเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถระบุเป็นของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งได้ เช่น เงินบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น, และค่าใช้จ่ายตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในปี 2569 งบกลางได้รับการจัดสรรสูงสุดที่ 632,968 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้เป็นการปรับลดลงจากปี 2568 ถึง 209,032 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ การลดลงนี้อาจสะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ อาจมีแนวโน้มลดลง หรืออาจเป็นการปรับเกลี่ยงบประมาณไปสู่กระทรวงต่างๆ เพื่อดำเนินนโยบายเฉพาะด้านมากขึ้น

กระทรวงการคลัง: หัวใจในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

กระทรวงการคลังได้รับการจัดสรรงบประมาณเป็นอันดับสองรองจากงบกลาง ที่วงเงิน 397,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8,197 ล้านบาท ในฐานะหน่วยงานหลักที่ดูแลนโยบายการคลังของประเทศ งบประมาณส่วนนี้จะถูกใช้ในการบริหารจัดการหนี้สาธารณะ, การดำเนินนโยบายภาษี, การสนับสนุนสถาบันการเงินของรัฐ และการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ การเพิ่มขึ้นของงบประมาณสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลยังคงมุ่งเน้นการฟื้นฟูและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเป็นลำดับความสำคัญสูง ท่ามกลางความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจโลกและปัจจัยภายในประเทศ

กระทรวงศึกษาธิการและการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์

การลงทุนในการศึกษาคือการลงทุนในอนาคตของชาติ กระทรวงศึกษาธิการได้รับงบประมาณเป็นอันดับสามที่ 355,108 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจถึง 14,333 ล้านบาทจากปี 2568 การเพิ่มขึ้นนี้บ่งชี้ถึงความตั้งใจของรัฐบาลที่จะยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศ งบประมาณดังกล่าวคาดว่าจะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาหลักสูตร, การ提升คุณภาพครู, การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาผ่านโครงการต่างๆ เช่น ทุนการศึกษาและอาหารกลางวัน รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาให้ทันสมัย รองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคดิจิทัล

การเพิ่มขึ้นของงบประมาณกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการคลัง ชี้ให้เห็นถึงยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการพัฒนาทั้ง “เศรษฐกิจ” และ “คน” ควบคู่กันไป เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้แก่ประเทศในระยะยาว

กระทรวงมหาดไทย: กลไกหลักในการพัฒนาท้องถิ่น

ด้วยงบประมาณ 301,265 ล้านบาท กระทรวงมหาดไทยมีบทบาทสำคัญในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับประชาชนทั่วประเทศ งบประมาณส่วนใหญ่จะถูกกระจายไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในระดับพื้นที่ เช่น ถนน แหล่งน้ำ และสาธารณูปโภคต่างๆ นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงงานด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน การจัดการสาธารณภัย และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน งบประมาณของกระทรวงมหาดไทยจึงเป็นกลไกสำคัญในการกระจายความเจริญและลดช่องว่างระหว่างเมืองกับชนบท

ผลกระทบและข้อสังเกตภาพรวมงบประมาณ 2569

ผลกระทบและข้อสังเกตภาพรวมงบประมาณ 2569

นอกจากการพิจารณางบประมาณรายกระทรวงแล้ว การมองภาพรวมของงบประมาณปี 2569 ยังมีประเด็นที่น่าสนใจและน่าจับตามองอีกหลายประการ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง

ความท้าทายในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย

ข้อมูลระบุว่าการเพิ่มขึ้นของงบประมาณโดยรวมมีเพียง 0.7% ซึ่งอาจไม่เพียงพอที่จะเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญในสภาวะที่เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ 6 ด้าน โดยมุ่งเน้นไปที่การดำเนินนโยบายที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน ซึ่งคาดว่าจะเป็นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจฐานราก ความสำเร็จของแนวทางนี้จะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการดำเนินโครงการต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้

การตั้งงบชดใช้เงินคงคลัง: รายการที่น่าจับตา

ข้อสังเกตที่สำคัญประการหนึ่งในงบประมาณปี 2569 คือการปรากฏรายการ “รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง” ซึ่งเป็นรายการที่ไม่ได้มีการตั้งงบประมาณไว้ในปี 2568 เงินคงคลังคือเงินที่รัฐบาลเก็บไว้เพื่อใช้จ่ายในกรณีที่รายได้จัดเก็บได้ไม่เป็นไปตามเป้า หรือมีรายจ่ายฉุกเฉินเกิดขึ้น การตั้งงบประมาณเพื่อชดใช้เงินในส่วนนี้ อาจบ่งชี้ถึงความพยายามในการรักษาวินัยทางการคลังและสร้างเสถียรภาพให้กับสถานะการคลังของประเทศในระยะยาว หลังจากที่อาจมีการดึงเงินส่วนนี้ไปใช้ในช่วงก่อนหน้า รายละเอียดและจำนวนเงินในส่วนนี้จึงเป็นสิ่งที่นักวิเคราะห์และประชาชนควรติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะสะท้อนถึงสุขภาพทางการคลังของรัฐบาล

บทสรุป: ทิศทางประเทศไทยผ่านงบประมาณแผ่นดิน

การจัดทำ งบประมาณ 2569: ส่องกระทรวงไหนได้เงินมากสุด-น้อยสุด ได้ให้ภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับลำดับความสำคัญของรัฐบาล โดยมีงบกลาง กระทรวงการคลัง และกระทรวงศึกษาธิการ เป็นหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในระดับสูงสุด สะท้อนถึงการมุ่งเน้นนโยบายด้านการรักษาเสถียรภาพ การกระตุ้นเศรษฐกิจ และการพัฒนาทุนมนุษย์เป็นหลัก ขณะที่กระทรวงอื่นๆ เช่น มหาดไทย กลาโหม และคมนาคม ก็ยังคงได้รับงบประมาณในสัดส่วนที่สูงเพื่อขับเคลื่อนภารกิจด้านการพัฒนาท้องถิ่น ความมั่นคง และโครงสร้างพื้นฐานของประเทศต่อไป

แม้ภาพรวมงบประมาณจะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่การจัดสรรภายใต้ยุทธศาสตร์ 6 ด้าน และการเพิ่มรายการชดใช้เงินคงคลัง แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนต่อไปคือการติดตามว่า งบประมาณที่ได้รับการอนุมัติจะถูกนำไปใช้อย่างโปร่งใส คุ้มค่า และสามารถสร้างประโยชน์สุขให้แก่ประชาชนและขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าได้ตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วนในสังคมที่ต้องร่วมกันตรวจสอบต่อไป