ไกด์ AI ลบชาติ! ทัวร์ทิพย์บิดประวัติศาสตร์ไทย

ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวก็เช่นกัน เทคโนโลยีไกด์ AI ถูกนำเสนอในฐานะนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ของนักเดินทาง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความสะดวกสบายนั้นกลับแฝงไว้ด้วยความกังวลที่น่าไตร่ตรอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่อาจนำไปสู่การบิดเบือนข้อมูลทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

• เทคโนโลยีไกด์ AI ในการท่องเที่ยวมีศักยภาพสูงในการให้ข้อมูลหลากหลายภาษาและนำทางแบบโต้ตอบได้ แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงในการนำเสนอข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่คลาดเคลื่อน
• ความถูกต้องของข้อมูลที่ AI นำเสนอขึ้นอยู่กับคุณภาพและความเป็นกลางของชุดข้อมูลที่ใช้ฝึกฝน ซึ่งอาจมีอคติหรือถูกสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า
• การบิดเบือนประวัติศาสตร์โดย AI อาจนำไปสู่ “วิกฤตวัฒนธรรม” ทำลายความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับรากเหง้าและอัตลักษณ์ของชาติในระยะยาว
• มัคคุเทศก์มนุษย์ยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการให้ข้อมูลเชิงลึก บริบททางสังคม และความสามารถในการตีความที่ซับซ้อน ซึ่ง AI ยังไม่สามารถทดแทนได้
• การกำกับดูแล การตรวจสอบข้อเท็จจริง และการสร้างมาตรฐานทางจริยธรรมสำหรับผู้พัฒนาแอปท่องเที่ยว คือกุญแจสำคัญในการป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

ไกด์ AI ลบชาติ! ทัวร์ทิพย์บิดประวัติศาสตร์ไทย กลายเป็นข้อกังวลที่ถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงในวงกว้าง เมื่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เริ่มเข้ามามีบทบาทในฐานะ “ผู้เล่าเรื่อง” ทางประวัติศาสตร์ผ่านแอปพลิเคชันนำเที่ยวต่างๆ ความกังวลนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างไร้เหตุผล แต่มีรากฐานมาจากการทำงานของ AI ที่ต้องพึ่งพาชุดข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งอาจถูกป้อนด้วยข้อมูลที่ถูกคัดเลือกหรือปรับแต่งเพื่อสร้างเรื่องเล่าที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักท่องเที่ยว โดยละเลยความจริงที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อน ปรากฏการณ์นี้จึงเป็นมากกว่าแค่ความผิดพลาดทางเทคนิค แต่เป็นความท้าทายต่อการธำรงรักษาอัตลักษณ์และมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ

บทความนี้จะสำรวจประเด็นดังกล่าวในเชิงลึก เพื่อทำความเข้าใจถึงศักยภาพและความเสี่ยงของไกด์ AI วิเคราะห์กลไกที่อาจนำไปสู่การบิดเบือนประวัติศาสตร์ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสังคมและวัฒนธรรมไทย พร้อมทั้งเปรียบเทียบบทบาทของ AI กับมัคคุเทศก์มนุษย์ และเสนอแนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อให้การท่องเที่ยวยังคงเป็นเครื่องมือแห่งการเรียนรู้และสร้างความเข้าใจทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง

ภาพรวมของเทคโนโลยีไกด์ AI ในการท่องเที่ยว

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกได้เปิดรับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการบริการอย่างรวดเร็ว หนึ่งในนวัตกรรมที่โดดเด่นคือ “ไกด์ AI” ซึ่งมักจะมาในรูปแบบของแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน โดยมีเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับนักท่องเที่ยว

โดยพื้นฐานแล้ว ไกด์ AI ถูกออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่คล้ายมัคคุเทศก์ดิจิทัล ฟังก์ชันหลักมักประกอบด้วย:

• การนำทางอัจฉริยะ: ใช้ GPS และแผนที่แบบโต้ตอบเพื่อนำนักท่องเที่ยวไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ พร้อมแนะนำเส้นทางที่มีประสิทธิภาพ
• การให้ข้อมูลหลายภาษา: ทำลายกำแพงทางภาษาโดยสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในภาษาต่างๆ ที่หลากหลาย ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าถึงเรื่องราวได้ง่ายขึ้น
• การเล่าเรื่องเชิงโต้ตอบ: บางแอปพลิเคชันใช้เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) เพื่อแสดงภาพจำลองในอดีตซ้อนทับกับสถานที่จริง หรือใช้ Chatbot เพื่อตอบคำถามพื้นฐานของนักท่องเที่ยว
• การแนะนำส่วนบุคคล: AI สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมและความสนใจของผู้ใช้ เพื่อแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร หรือกิจกรรมที่ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคล

ประโยชน์ที่ชัดเจนของไกด์ AI คือความสะดวกสบาย เข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง และมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการจ้างมัคคุเทศก์ส่วนตัว เทคโนโลยีเหล่านี้จึงถูกมองว่าเป็นเครื่องมือส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ทรงพลัง สามารถกระจายข้อมูลสู่คนหมู่มากได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของไกด์ AI นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยที่สำคัญที่สุด นั่นคือ “คุณภาพของข้อมูล” ที่ถูกป้อนเข้าไปในระบบ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความท้าทายและความกังวลในประเด็นการบิดเบือนประวัติศาสตร์

ความกังวลต่อประเด็น: ไกด์ AI ลบชาติ! ทัวร์ทิพย์บิดประวัติศาสตร์ไทย

แม้ว่าเทคโนโลยีไกด์ AI จะมีประโยชน์หลายประการ แต่ก็มี “ด้านมืด” ที่น่ากังวลซ่อนอยู่เบื้องหลังความชาญฉลาดของอัลกอริทึม ประเด็นเรื่อง ไกด์ AI ลบชาติ! ทัวร์ทิพย์บิดประวัติศาสตร์ไทย ไม่ใช่เรื่องเกินจริง แต่เป็นความเสี่ยงที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานการทำงานของ AI เอง ซึ่งหากขาดการควบคุมและตรวจสอบอย่างรัดกุม ก็อาจกลายเป็นเครื่องมือที่สร้างความเสียหายต่อมรดกทางวัฒนธรรมได้อย่างคาดไม่ถึง

กลไกการทำงานและความเสี่ยงของการบิดเบือนข้อมูล

AI ไม่ได้มีความเข้าใจหรือสำนึกรู้คิดเช่นเดียวกับมนุษย์ การทำงานของมันคือการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ได้รับมา (Training Data) เพื่อค้นหารูปแบบและสร้างผลลัพธ์ตามคำสั่ง ดังนั้น ความถูกต้องของข้อมูลที่ AI นำเสนอจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้:

1. คุณภาพของแหล่งข้อมูล: หาก AI ถูกฝึกฝนด้วยข้อมูลจากแหล่งที่ไม่มีคุณภาพ มีอคติ หรือเป็นข้อมูลที่ไม่ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์ ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมคลาดเคลื่อนตามไปด้วย
2. อคติในอัลกอริทึม (Algorithmic Bias): ผู้พัฒนาอาจตั้งใจหรือไม่ตั้งใจสร้างอัลกอริทึมที่ให้น้ำหนักกับข้อมูลบางชุดมากกว่าชุดอื่น ตัวอย่างเช่น การเน้นเล่าเรื่องราวที่สวยงามและเป็นที่ชื่นชอบของตลาดนักท่องเที่ยว โดยตัดทอนหรือละเลยประเด็นที่ละเอียดอ่อนหรือเป็นที่ถกเถียงในประวัติศาสตร์
3. เป้าหมายเชิงพาณิชย์: แอปท่องเที่ยวส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ อาจมีการนำเสนอข้อมูลที่เรียบง่าย ย่อยง่าย และ “ขายได้” มากกว่าการนำเสนอความจริงทางประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อน ซึ่งอาจไม่ถูกใจนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายเสมอไป สิ่งนี้อาจนำไปสู่การสร้าง “ประวัติศาสตร์ฉบับสังเคราะห์” ที่ถูกตัดแต่งเพื่อความบันเทิง

ความน่ากลัวของไกด์ AI ไม่ได้อยู่ที่ความผิดพลาดของเทคโนโลยี แต่อยู่ที่ความสามารถในการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกบิดเบือนในวงกว้างอย่างรวดเร็วและน่าเชื่อถือ จนอาจทำให้เรื่องเล่าที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นใหม่กลายเป็นความเข้าใจหลักของคนรุ่นต่อไป

กรณีศึกษาเชิงสมมติ: Siam Navigator

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ลองจินตนาการถึงแอปพลิเคชันนำเที่ยวสมมติที่ชื่อว่า “Siam Navigator” ซึ่งถูกโปรโมตว่าเป็นนวัตกรรมล่าสุดของการท่องเที่ยวไทย แอปฯ นี้อาจถูกพัฒนาโดยบริษัทเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นการสร้างรายได้สูงสุด โดยใช้วิธีการดังต่อไปนี้:

• การดึงข้อมูลจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ: แทนที่จะใช้ข้อมูลจากกรมศิลปากรหรือเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่ผ่านการรับรอง Siam Navigator อาจดึงข้อมูลจากบล็อกท่องเที่ยว บทความออนไลน์ หรือแม้กระทั่ง Wikipedia ที่ใครก็สามารถแก้ไขได้ เพื่อลดต้นทุนในการรวบรวมข้อมูล
• การสร้างเรื่องเล่าที่เกินจริง: เพื่อทำให้สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจยิ่งขึ้น AI ของ Siam Navigator อาจเสริมแต่งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ด้วยตำนานหรือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ไม่มีมูลความจริง เช่น การอ้างว่าสถานที่แห่งนี้มีพลังลึกลับ หรือการผูกโยงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เข้ากับเรื่องราวดราม่าที่แต่งขึ้นเพื่อเรียกอารมณ์
• การละเลยบริบทที่สำคัญ: ในการอธิบายเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ AI อาจเลือกเล่าเฉพาะด้านที่เชิดชูวีรกรรม โดยไม่กล่าวถึงผลกระทบทางสังคม การเมือง หรือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจริง เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างความรู้สึกไม่ดีให้กับนักท่องเที่ยว

ผลลัพธ์คือ นักท่องเที่ยวที่ใช้ Siam Navigator จะได้รับชุดข้อมูลที่ “สนุก” และ “น่าประทับใจ” แต่เป็นข้อมูลที่ห่างไกลจากความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์ เมื่อข้อมูลเหล่านี้ถูกแชร์ต่อในโซเชียลมีเดีย ก็จะยิ่งเป็นการตอกย้ำความเข้าใจที่ผิดเพี้ยนให้ขยายวงกว้างออกไป นี่คือภาพสะท้อนของความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจริงหากไม่มีการกำกับดูแลแอปท่องเที่ยวเหล่านี้อย่างจริงจัง

ผลกระทบของข้อมูลประวัติศาสตร์ที่คลาดเคลื่อน

การนำเสนอข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่ถูกบิดเบือนโดยไกด์ AI ไม่ใช่เพียงปัญหาเล็กน้อยที่ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวเป็นรายบุคคล แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่อาจกัดเซาะรากฐานทางวัฒนธรรมและความน่าเชื่อถือของประเทศในระยะยาว

วิกฤตวัฒนธรรมและการกัดเซาะรากเหง้าของชาติ

ประวัติศาสตร์คือรากฐานของอัตลักษณ์ชาติ เป็นเครื่องมือที่ทำให้คนในสังคมเข้าใจที่มาของตนเอง เรียนรู้จากอดีต และสร้างอนาคตร่วมกัน หากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ถูกทำให้ตื้นเขินหรือเปลี่ยนแปลงไปเพื่อตอบสนองต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว ผลกระทบที่ตามมาอาจรุนแรงกว่าที่คิด:

• การสูญเสียความเข้าใจที่แท้จริง: คนรุ่นใหม่อาจเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความเข้าใจประวัติศาสตร์แบบฉาบฉวยที่ได้รับจากเทคโนโลยี ทำให้ขาดความซาบซึ้งในความซับซ้อนและความเสียสละของบรรพบุรุษ
• การลดทอนคุณค่าของมรดกชาติ: สถานที่ทางประวัติศาสตร์อาจถูกมองเป็นเพียง “ฉาก” สำหรับถ่ายรูป มากกว่าจะเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความหมายที่ลึกซึ้ง
• การสร้างความแตกแยกทางความเข้าใจ: เมื่อมี “ประวัติศาสตร์ฉบับท่องเที่ยว” ที่แตกต่างจาก “ประวัติศาสตร์ฉบับวิชาการ” อาจนำไปสู่ความสับสนและความขัดแย้งทางความคิดในสังคม

ภาวะดังกล่าวอาจนำไปสู่สิ่งที่เรียกว่า “วิกฤตวัฒนธรรม” ซึ่งสังคมค่อยๆ สูญเสียการเชื่อมโยงกับอดีตของตนเอง และปล่อยให้เรื่องเล่าเชิงพาณิชย์เข้ามาแทนที่ความทรงจำร่วมของชาติ

ความน่าเชื่อถือของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

ในมุมมองของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การปล่อยให้แอปพลิเคชันที่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลายอาจเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของตนเองในระยะยาว แม้ในระยะสั้นอาจดูเหมือนเป็นการสร้างความพึงพอใจให้กับนักท่องเที่ยว แต่เมื่อความจริงปรากฏว่าข้อมูลที่ได้รับนั้นไม่ถูกต้อง ย่อมส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

นักท่องเที่ยวในปัจจุบันมีความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลและตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ง่ายขึ้น หากพวกเขาพบว่าข้อมูลจากไกด์ AI ที่ทางการส่งเสริมนั้นไม่น่าเชื่อถือ ความไว้วางใจที่มีต่อการท่องเที่ยวของไทยโดยรวมก็จะลดลง การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ยั่งยืนนั้นต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความจริงและความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ใช่การสร้างเรื่องเล่าที่สวยงามแต่ว่างเปล่า

การเปรียบเทียบระหว่างไกด์ AI และมัคคุเทศก์มนุษย์

เพื่อทำความเข้าใจถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของเทคโนโลยีไกด์ AI การเปรียบเทียบกับบทบาทของมัคคุเทศก์มนุษย์จะช่วยให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าเทคโนโลยีสามารถทำอะไรได้บ้าง และสิ่งใดที่ยังไม่สามารถทดแทนได้

จากตารางจะเห็นได้ว่า แม้ไกด์ AI จะมีความโดดเด่นในด้านความสะดวกและการเข้าถึง แต่ก็ยังมีข้อจำกัดที่สำคัญในมิติของคุณภาพข้อมูล ความลึกซึ้ง และการปฏิสัมพันธ์ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สำคัญของมัคคุเทศก์มนุษย์ ดังนั้น เทคโนโลยีจึงควรถูกมองเป็น “เครื่องมือเสริม” มากกว่าที่จะเป็น “สิ่งทดแทน” บทบาทของผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์

แนวทางการกำกับดูแลและจริยธรรมในการพัฒนาไกด์ AI

เพื่อป้องกันไม่ให้ความกังวลเรื่อง “ไกด์ AI ลบชาติ” กลายเป็นความจริง การวางกรอบการกำกับดูแลและมาตรฐานทางจริยธรรมสำหรับการพัฒนาแอปท่องเที่ยวจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างเร่งด่วน โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

บทบาทของภาครัฐและภาคเอกชน

ภาครัฐ เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือกรมศิลปากร ควรเข้ามามีบทบาทในการกำหนดมาตรฐานกลางสำหรับข้อมูลทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่จะนำไปใช้ในแอปพลิเคชันต่างๆ อาจมีการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อตรวจสอบและให้การรับรองแอปท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค

ในขณะเดียวกัน ภาคเอกชน ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน ควรแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมโดยยึดมั่นในหลักจริยธรรมการพัฒนา AI ซึ่งรวมถึง:

• ความโปร่งใสของแหล่งข้อมูล: ระบุที่มาของข้อมูลที่ใช้ในการฝึกฝน AI อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
• การร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญ: ทำงานร่วมกับนักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดี และผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมในการคัดกรองและตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา
• การเปิดช่องทางรับฟังความคิดเห็น: สร้างกลไกให้ผู้ใช้สามารถรายงานข้อมูลที่ผิดพลาด เพื่อนำไปสู่การแก้ไขและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูล

หัวใจสำคัญของการป้องกันการบิดเบือนประวัติศาสตร์คือกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง (Fact-checking) ที่เข้มแข็ง ข้อมูลทุกชิ้นที่ถูกนำเข้าระบบ AI ควรผ่านการตรวจสอบจากหลายแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ การสร้าง “ชุดข้อมูลกลาง” (Centralized Database) ที่รวบรวมข้อมูลประวัติศาสตร์ไทยที่ผ่านการรับรองแล้ว และเปิดให้ผู้พัฒนานำไปใช้งาน อาจเป็นหนึ่งในแนวทางแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การให้ความรู้แก่ผู้บริโภคหรือนักท่องเที่ยวเองก็เป็นสิ่งสำคัญ พวกเขาควรได้รับการส่งเสริมให้มีวิจารณญาณในการรับข้อมูลจากสื่อดิจิทัล ไม่เชื่อถือข้อมูลจากแหล่งใดแหล่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว และสนับสนุนการใช้บริการจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่มีความรู้จริง เพื่อประสบการณ์การเรียนรู้ที่สมบูรณ์และถูกต้อง

บทสรุปและอนาคตของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

เทคโนโลยีไกด์ AI ถือเป็นดาบสองคมสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ในด้านหนึ่ง มันคือเครื่องมืออันทรงพลังที่สามารถทำให้การเข้าถึงข้อมูลทางวัฒนธรรมเป็นเรื่องง่ายและไร้พรมแดน แต่อีกด้านหนึ่ง หากปราศจากการกำกับดูแลที่เหมาะสม มันก็อาจกลายเป็นเครื่องมือที่สร้างและเผยแพร่เรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ที่บิดเบือน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเข้าใจในอัตลักษณ์และรากเหง้าของชาติอย่างรุนแรง

ประเด็น “ไกด์ AI ลบชาติ! ทัวร์ทิพย์บิดประวัติศาสตร์ไทย” จึงไม่ใช่เพียงคำกล่าวที่เกินจริง แต่เป็นสัญญาณเตือนให้สังคมหันมาให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม อนาคตของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ยั่งยืนไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างเทคโนโลยีกับมนุษย์ แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถในการผสานทั้งสองสิ่งเข้าด้วยกันอย่างมีความรับผิดชอบ

การพัฒนาไกด์ AI ที่ทำงานร่วมกับฐานข้อมูลที่ตรวจสอบแล้ว การส่งเสริมบทบาทของมัคคุเทศก์มนุษย์ในฐานะผู้ให้บริบทเชิงลึก และการสร้างผู้บริโภคที่ชาญฉลาด คือแนวทางที่จะนำพาการท่องเที่ยวไทยไปข้างหน้าอย่างมั่นคง โดยที่เทคโนโลยียังคงทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยที่ยอดเยี่ยม ในขณะที่จิตวิญญาณและเรื่องราวที่แท้จริงของประวัติศาสตร์ชาติยังคงได้รับการปกป้องและสืบทอดต่อไปอย่างถูกต้องและยั่งยืน